ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ความเป็นหญิงอันสูงส่ง ตอนที่ 13 จาก 20 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ใครก็ตามที่ติดต่อผู้อื่น เพื่อขอเงินทำบุญหรือ ผลประโยชน์ใด ๆ ก็ตาม จะต้องแบ่งรับกรรมของคนนั้น และคุณไม่มีทางรู้เลยว่า สาวกต่าง ๆ ทำอะไรอยู่ที่บ้าน หรือในใจเขา คิดอะไร หรือมีกรรมไม่ดี ในชาตินี้ หรือชาติที่แล้ว ที่ต่อเนื่องมา ส่งผลมากเท่าใด ทั้งหมดนี้คุณต้องจำไว้ และรับไป ฉะนั้น หากคุณเป็นภิกษุ แม่ชี หรือนักบวช ทุกวันคุณต้องน้อมขอบคุณ พระเจ้าอย่างจริงใจ จริง ๆ ขอบคุณพระพุทธเจ้าที่ช่วยเหลือคุณ ที่ให้อภัยคุณ ที่สนับสนุนคุณ ด้วยพลังของท่าน ไม่เช่นนั้น เพียงมนุษย์คนหนึ่ง ไม่สามารถย่อยสิ่งทั้งหมดเหล่านี้ได้

ในเอาหลัก (เวียดนาม) มีเรื่องราวหนึ่งที่แม่ชีครูของฉัน เล่าให้ฉันฟัง ตอนที่เธอเป็นผู้ลี้ภัยในเยอรมนี ฉันทำงานในค่ายผู้ลี้ภัยแห่งหนึ่ง ในเอแอลเอซี (ศูนย์ให้คำแนะนำ และช่วยเหลือทางกฎหมาย) และมีครอบครัวหนึ่ง ซึ่งเป็นครอบครัวชาวพุทธ มีสี่คน – พระภิกษุสองรูป และแม่ชีสองคน สามีและลูกชายเป็นพระภิกษุ ส่วนลูกสาว และแม่เป็นชี ตามที่แม่ชีผู้เป็นแม่บอกฉัน พวกเขาคือผู้ที่เป็นสักขีพยาน คำปฏิญาณของฉัน ต่อหน้าพวกเขา พวกเขาบอกฉันว่าสิ่งที่ฉันปรารถนา หากธูปไม่โค้งงอลงมา หรือตกลงมา ขี้เถ้าธูปไม่ตกลงมา ความปรารถนาของฉันก็จะเป็นจริง ความปรารถนาของฉันจริงและจริงใจ ธูปหอมทั้งหมดตั้งขึ้น- ไหม้หมด แต่ขี้เถ้า ไม่หล่นลงมาเลย เหตุนี้หลังจากที่ฉันไป เทือกเขาหิมาลัยและกลับมา ฉันจึงอยากตอบแทนความเมตตาของเธอ เพราะเธอได้สอนฉันบางอย่าง เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า และชาวพุทธ และสนับสนุนให้ฉัน ศรัทธาในพระพุทธศาสนามากขึ้น

ตอนนั้นฉันนับถือศาสนาพุทธ ควบคู่กับศาสนาคริสต์ ฉันจึงสวมไม้กางเขน ไว้ที่หน้าอก หนึ่งในพนักงานของคาริตัส ให้ฉันมา ฉันก็เลยสวมไว้ แม่ชีพุทธไม่ชอบ ที่ฉันสวมไม้กางเขน เขาคงอยากให้ฉัน สวมพระพุทธรูปแทน พวกเขาต้องการลากฉัน เข้าศาสนาพุทธ แทนศาสนาคริสต์ ฉันบอกคุณให้นะว่า ในโลกนี้มันยาก ที่จะนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง เพราะคนอื่นอาจอยากลากคุณ ให้ไปนับถือศาสนาอื่นของเขา เพราะคิดว่าศาสนาพุทธดีกว่า ในขณะที่คนอื่นอาจคิดว่า ศาสนาคริสต์ดีกว่า เป็นต้น พวกเขาสามารถต่อสู้ไปตลอดกาล อย่างน้อยก็ด้วยวาจา แต่ในครอบครัวของฉัน พ่อของฉันเป็นคริสเตียน คุณย่าและแม่ของฉันเป็นพุทธ ฉันจะทำอย่างไรดี? ฉันเกิดและเติบโตมา ในทั้งสองธรรมเนียมนี้

และคำอธิษฐานของฉันครั้งนั้น ต่อหน้าผู้ถือสันโดษ ที่น่านับถือทั้งสี่ ก็คือ ฉันคิดว่าชีวิตของฉัน... ฉันพูดกับพระพุทธเจ้าบนสวรรค์ว่า “ชีวิตของฉันในฐานะมนุษย์ ไม่เลวร้ายนัก ฉันรู้ว่าชีวิตมนุษย์นั้นแย่ แต่ชีวิตของฉันก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ดังนั้น หากฉันมีบุญกุศลใด ๆ โปรดโอนไปให้จิตวิญญาณที่เลวร้าย ที่สุดเท่าที่เป็นได้ แต่อย่าให้ฉันรู้” และเพราะแบบนี้ ธูปทั้งหมดจึงตั้งขึ้น และในเวลานั้นฉันยังไม่ได้บอก พระภิกษุและแม่ชี แต่ฉันคิดว่าตอนนี้ฉันบอกได้แล้ว ฉันบอกไปแล้ว ทำไมล่ะ? รอสักครู่นะ ฉันจะถามว่า บอกไปได้ไหม ไม่เป็นไร มันเกิดขึ้นไปแล้ว ฉันก็แก่มากแล้ว และทำแบบนี้ มาหลายสิบปีแล้ว ฉันไม่ทางรู้เลยว่า ฉันจะตายพรุ่งนี้หรือเปล่า ทำงานหนักและ วิ่งหนีมาเยอะ ไม่เป็นไร มิฉะนั้นคุณคงนึกถึง เรื่องนั้นอยู่ตลอดเวลา “ท่านพูดอะไรนะ?” ท่านได้ปฏิญาณไว้ว่าอะไร? ทำไมธูปทั้งหมด จึงตั้งตรงและเถ้า ไม่หล่นลงมา? ท่านพูดอะไรนะ? และมันจะทำให้ ใจของคุณวุ่นวายไป

นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ๆ ในชีวิตของฉัน ตั้งแต่นั้น มันก็เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่มันเกิดขึ้นไปแล้ว โดยที่ฉันไม่รู้ เหมือนว่า ฉันเป็นพุทธะ ตั้งแต่เกิดมา แต่ฉันไม่ได้รับอนุญาตให้รู้ เมื่อฉันอายุมากขึ้น ฉันต้องไปเอามันกลับคืนมาอีกครั้ง และเมื่อฉันรู้แล้ว ฉันไม่กล้าพูดอะไรอีก เพราะรู้ว่า อาจารย์ต่าง ๆ ที่บอกคนอื่น ว่าเป็นอาจารย์ที่มาจากพระเจ้า และพระพุทธเจ้า และทั้งหลายนั่น พวกเขาล้วนมีชีวิตเดือดร้อนมาก และไม่ค่อยมีใคร เชื่อพวกเขาอยู่แล้ว

แม้แค่เป็นอาจารย์ธรรมดา ๆ หรือแม้แต่เป็นอาจารย์สูงสุด ฉันก็โดนตีไปทั่วแล้ว ไม่ต้องพูดถึง การเป็นพระศรีอริยเมตไตรย หรือพระคริสต์ ผู้เป็นหนึ่งเดียว ในช่วงเวลานี้ ที่สามารถช่วยโลกได้ แน่นอนว่า ผู้คนจะไม่เชื่อเรื่องนี้ ถ้าพวกเขามองมาที่ฉัน แล้วพูดว่า "อะไรนะ? ท่านเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ท่านจะเป็นพระพุทธเจ้าได้อย่างไร? ผู้หญิงไม่สามารถเป็นพระพุทธเจ้าได้ ถ้าฉันเป็นพระพุทธเจ้าอยู่แล้วละ? ฉันทำอะไรได้หลายอย่าง ฉันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าอะไร จะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อมนุษย์ ดังนั้นแม้คุณจะไม่เชื่อว่า ฉันเป็นพระพุทธเจ้า โปรดอย่าพูด อะไรที่ไม่ดีเกี่ยวกับฉันเลย มิฉะนั้น ฉันจะไม่สามารถช่วยคุณได้ ฉันไม่ได้พยายามที่จะขู่คุณ ฉันสาบานต่อพระเจ้า ต่อพระพุทธเจ้า ว่าฉันพูดความจริงกับคุณ มิฉะนั้นฉันจะถูกลงโทษ ฉันจะสูญเสียความเป็นตัวตนตลอดกาล มีอะไรที่ฉ้นอยากบอกคุณอีก? สักครู่ ฉันขอคิดดูก่อน

โอ้ใช่ ฉันลืมไปว่า ฉันอยากพูดถึงสัทธรรมปุณฑรีกสูตร ที่พระมัญชุศรีบอกกับ ผู้ที่ถามว่า ที่พระองค์เสด็จไปที่ อาณาจักรมหาสมุทร และวิญญาณตนหนึ่ง ซึ่งเป็นวิญญาณแห่งน้ำ ธิดามังกร ธิดาของราชาแห่งมังกร- ส่วนใหญ่ ราชาแห่งมังกร จะปกครองน้ำ ธิดามังกร ได้บรรลุธรรม นางเป็นพระอรหันต์ ผู้ควรแก่การบูชา นางมีอายุเพียงแปดขวบเท่านั้น หลังจากคนอื่น ๆ สงสัยนาง นางก็ได้พิสูจน์ให้รู้

แต่คนเหล่านี้ ผู้ที่สงสัยท่านและ สงสัยพระมัญชุศรี พวกเขาก็อยู่ในระดับสูงกว่าอยู่แล้ว ไม่สูงเท่าพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้า แต่พวกเขาคงอยู่ในระดับ ที่ไม่กลับมาอีกแล้ว ไม่จำเป็นต้องกลับมา สู่ชีวิตมนุษย์อีก หากพวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาสูงอยู่แล้ว ฉะนั้น เมื่อท่านพิสูจน์ พวกเขาก็สามารถเห็นท่าน เมื่อท่านเนรมิตตน ในประเทศอื่น พื้นที่อื่น อาณาจักรอื่น และเปิดเผยตัวเอง ว่าเป็นผู้รู้แจ้ง สั่งสอนตัวตนอื่น สั่งสอนสรรพสัตว์อื่น ในแดนไกลแสนไกล

พระมัญชุศรีตรัสว่า: “มีธิดาของ ราชามังกรสาการะ มีอายุเพียงแปดขวบ นางเป็นคนมีปัญญา นางมีไหวพริบเฉียบแหลม และนางรู้ถึง ความคิดและการกระทำ ของสรรพสัตว์ทั้งหลายได้ดี นาวได้บรรลุถึงพลัง แห่งการระลึกแล้ว นางเป็นผู้เก็บรักษาสมบัติล้ำค่า อันล้ำลึกที่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย ทรงสั่งสอนไว้ เข้าสู่สมาธิขั้นสูง และสามารถรู้ถึงธรรมะ ทุกประการได้เป็นอย่างดี "นางได้เกิด การระลึกของพุทธะ (การรู้แจ้ง) ขึ้นทันที และบรรลุ ถึงขั้นที่ไม่คืนกลับ" นางมีวาทศิลป์ไม่มีใครโต้เถียงได้ และคำนึงถึงสรรพสัตว์ ด้วยความเมตตากรุณาเสมือนว่า พวกเขาเป็นลูกของนางเอง คุณธรรมของนางนั้นสมบูรณ์ ความคิดและคำอธิบายของนาง มีความละเอียดอ่อนและกว้างขวาง มีเมตตาและกรุณา นางมีจิตใจดีงาม และบรรลุพระโพธิญาณ (รู้แจ้ง) แล้ว”

พระโพธิสัตว์ปรัชญากุฏะตรัสว่า: "ข้าพเจ้าเห็นพระศากยมุนีตถาคต ผู้ทรงเพียรพยายาม ปฏิบัติอย่างยากลำบาก ไม่หยุดหย่อน หลายกัป (อสงไขย) นับไม่ถ้วน ทรงสั่งสมบุญกุศล และคุณธรรม ในขณะแสวงหา หนทางแห่งโพธิ (การตรัสรู้) เมื่อมองดูจักรวาล อันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ไม่มีสถานใดเลย แม้แต่ขนาดเท่าเมล็ดมัสตาร์ด ที่พระโพธิสัตว์องค์นี้ มิได้ละทิ้งชีวิตของพระองค์ เพื่อสรรพสัตว์ พระองค์ทรงรู้แจ้งโดยสมบูรณ์ จากการทำเช่นนี้เท่านั้น เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่า ธิดามังกรจะ รู้แจ้งโดยสมบูรณ์ ได้ในทันที”

ก่อนที่พระองค์จะตรัสจบ ธิดาราชามังกร ทันทีก็ปรากฏตัว ต่อหน้าพวกเขา นางได้กราบพระพุทธเจ้า ด้วยความนอบน้อม ถอยไปด้านหนึ่ง และกล่าวสรรเสริญ ด้วยบทกลอนนี้: "พระพุทธเจ้าทรงรอบรู้ ในลักษณะของความดี และความชั่วเป็นอย่างดี และทรงส่องสว่างทั้งสิบทิศ อย่างแจ่มแจ้ง" กายธรรมอันบริสุทธิ์ละเอียดอ่อน ของพระองค์นั้น ประกอบด้วย ลักษณะสามสิบสองประการ ด้วยลักษณะอันดีแปดสิบประการ ได้ประดับกายธรรมของพระองค์ พระองค์ทรงเป็นที่เคารพบูชา ของเทวดาและมนุษย์ และเป็นที่เคารพนับถือของมังกร ไม่มีสรรพสัตว์ใด ที่ไม่บูชาพระองค์ ยิ่งกว่านั้น เราจะบรรลุธรรม เมื่อได้ฟังพระองค์ จะสามารถรู้ได้ เฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้น เราจะเผยแผ่ คำสอนของมหายาน และช่วยเหลือสรรพสัตว์ ผู้ทุกข์ยาก”

ในเวลานั้น พระสารีบุตรได้ ตรัสกับธิดามังกรว่า: "ท่านพูดว่า ท่านจะบรรลุ วิถีที่สูงสุดในเร็ว ๆ นี้ เป็นเรื่องยากที่จะเชื่อ ทำไมเป็นเช่นนั้น? ร่างกายของสตรีมีมลทิน มันไม่ใช่พาหนะที่เหมาะ แก่การถือธรรมะ ท่านจะบรรลุการรู้แจ้ง ที่สูงสุดได้อย่างไร? เส้นทางแห่งพระพุทธเจ้านั้นยาวไกล จะบรรลุธรรมนี้ได้ ก็ต่อเมื่อได้บำเพ็ญเพียร ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และบำเพ็ญเพียร ครบถ้วน หลายกัลป์ (อสงไขย) ที่นับไม่ถ้วน นอกจากนี้ ร่างกายของสตรี ยังมีสิ่งกีดขวางห้าประการ ประการแรกคือ ไม่สามารถ เป็นพระพรหมอันยิ่งใหญ่ได้ ประการที่สองคือ ไม่สามารถ ที่จะเป็นท้าวสักระได้ ประการที่สามคือ ไม่สามารถ เป็นมารได้ และประการที่สี่คือ ไม่สามารถที่จะเป็นราชา ผู้หมุนล้อธรรมได้ ประการที่ห้าคือ ไม่สามารถบรรลุเป็นพระพุทธเจ้าได้ ด้วยกายสตรีของท่าน จะสามารถเป็นพระพุทธเจ้า อย่างรวดเร็วได้อย่างไร?”

ธิดามังกรได้นำ แก้วมณีอันล้ำค่า มูลค่ามหาศาลมาถวายแด่ พระพุทธเจ้า และพระพุทธเจ้า ก็ทรงรับแก้วมณีนั้นไว้ ธิดามังกรได้สนทนากับ พระโพธิสัตว์ปรัชญากุฏะและ พระสารีบุตรผู้สูงส่งกล่าวว่าา "เราได้ถวายแก้วมณีอันล้ำค่า และพระภควัตทรงรับไว้ ลุล่วงเร็วหรือไม่? พวกเขากล่าวตอบว่า “ลุล่วงรวดเร็วมาก!” ธิดามังกรกล่าวว่า: "ด้วยพลัง อันเหนือธรรมชาติของท่าน จงดูเรากลายเป็นพระพุทธเจ้า ได้รวดเร็วยิ่งกว่านั้น" จากนั้นที่ประชุม ก็เห็นธิดามังกร แปลงร่าง เป็นชายทันที ปฏิบัติเป็นพระโพธิสัตว์โดยสมบูรณ์ สู่แดนวิมาลา (แดนบริสุทธิ์) ทางทิศใต้ ทรงนั่งบนดอกบัว ประดับด้วยอัญมณี รู้แจ้งสูงสุดอย่างสมบูรณ์ ได้รับพรด้วย คุณลักษณะสามสิบสองประการ และ ลักษณะอันเป็นเลิศแปดสิบประการ และแสดงสัจธรรม ทั่วจักรวาล เพื่อประโยชน์ของสรรพสัตว์ ทั่วทั้งสิบทิศ

ครานั้น เหล่าพระโพธิสัตว์ สาวก เทวดาทั้งแปด มังกร และอื่น ๆ ทั้งมนุษย์และอมนุษย์แห่ง สหัสโลก (โลกีย์โลก) ทั้งปวงต่างก็เห็นแต่ไกลว่า ธิดามังกร ได้เป็นพระพุทธเจ้า และทรงแสดงธรรม แก่มวลมนุษย์และเทวดา ในที่ประชุมนั้น พวกเขาดีใจเป็นอย่างยิ่ง และให้เกียรตินาง เมื่อได้ฟังธรรมแล้ว สรรพสัตว์ทั้งหลาย จำนวนนับไม่ถ้วน ได้รู้แจ้ง และไม่เสื่อมถอย สรรพสัตว์นับไม่ถ้วน ได้รับการทำนาย ถึงพุทธภาวะของตน ในอนาคต ดินแดนวิมาลา (ดินแดนบริสุทธิ์) สั่นสะเทือนหกครั้ง ในสหัสโลก มีสรรพสัตว์จำนวนสามพันตน ที่ปรารถนา จะตรัสรู้ ได้รับคำทำนาย ว่าในที่สุดจะ บรรลุพระพุทธภาวะ พระโพธิสัตว์ปรัชญากุฏะ พระสารีบุตร และบรรดาที่ประชุมยอมรับและ เชื่อดังนี้โดยไม่พูดอะไร ~ พระสูตรธรรมปุณฑรีกสูตร บทที่ 12

พวกเขาก้มคำนับ คารวะพระองค์ แต่ไกลและเชื่อพระองค์ แม้แต่พระมัญชุศรียังบอกพวกเขาว่า พวกเขาไม่เชื่อ เพราะท่านเป็นหญิง “นางจะสามารถบรรลุธรรมและ เป็นพระอรหันต์ได้อย่างไร หากนางเป็นหญิง?” แม้แต่พระมัญชุศรีบอกพวกเขา พวกเขาก็ไม่เชื่อพระมัญชุศรี คุณเชื่อไหม? พระมัญชุศรีโพธิสัตว์เป็น พระอรหันต์ผู้ทรงปัญญาเลิศ ในพระพุทธศาสนาในขณะนั้น

แต่พระภิกษุและแม่ชีบางคน สามารถมองเห็นอนาคตได้ พวกเขาก็มองเห็นฉันเช่นกัน ดังนั้นเมื่อฉัน กลับมาจากหิมาลัย ฉันจึงตอบแทน ความเมตตาของเธอโดย ถ่ายทอดวิถีกวนอิมนี้แก่เธอ และลูกสาว เพียงสองคนเท่านั้น และพวกเขาก็เชื่อฉันมาก และยังคงเรียกฉันว่า อาจารย์จนถึงทุกวันนี้ เมื่อฉันถวายบางอย่าง ให้วัดของพวกเขา พวกเขากล่าวว่า “ขอบคุณอาจารย์” อะไรทำนองนั้น ฉันไม่ได้อยู่ที่นั่น ฉันแค่ส่งคนไปถวาย ฉันได้นำไปถวายแก่วัดบางแห่ง แต่ไม่อยากบอกว่าเท่าไร และที่ไหน

และเมื่อเราพบกันครั้งแรก เธอสอนบางอย่างให้ฉัน อย่างน้อยเธอก็ให้พระสูตรหนึ่งแก่ฉัน ตอนนั้นที่เยอรมนีฉัน ไม่รู้ว่า จะหาพระสูตรได้จากที่ไหน เธอจึงได้ให้มาหนึ่งเล่ม ฉันจำได้ อะไรก็ตามที่ฉันอ่าน มันก่อน นานมาแล้ว ในเอาหลัก (เวียดนาม) ในเยอรมนี คุณหาพระสูตร ภาษาเอาหลัก (เวียดนาม) ไม่ได้ ยากมาก และเธอเชื่อมั่นในตัวฉันมาก และยังคงเชื่อมั่นเช่นนั้น และเธอยังบอกฉันว่า เธอรู้เรื่องเกี่ยวกับ พระพุทธศาสนามากในเวลานั้น ในเวลานั้นฉันยังคง ไปทั่วโลก ยังไม่ได้ออกไปแสวงหาการรู้แจ้ง ที่ไหนเลย

ส่วนพวกที่บอกว่า ฉันมาพึ่ง – แต่เธอเป็นคนถ่อมตัวมาก – เธอไม่ยอมรับฉันเป็น สาวกหรือศิษย์ เพราะหากคุณหาที่พึ่ง กับภิกษุ หรือแม่ชี แล้วคุณถวายเครื่องบูชา ต่อพวกเขา และทั้งหมดนั่น เธอไม่ยอมรับสิ่งนั้น เธอพาฉันไปหาพระอีกรูปหนึ่ง ที่มีวัด เธอไม่มีวัด และคิดว่าตนเองเป็นผู้หญิง ไม่ใช่ภิกษุณีเต็มตัว ในสมัยนั้น เธอไม่ได้รักษา ศีล 250 ข้อ ที่จะสามารถเป็น ภิกษุณีที่แท้จริงได้ เธอจึงพาไปหาพระสงฆ์ ครบเครื่องที่พึ่งพิงได้ ไม่มีอะไรมาก บางทีพวกเขาอาจ รับซองแดง ที่มีเงินบริจาคของคุณไป แล้วบอกว่า “เอาล่ะตอนนี้คุณเป็นสาวก ของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ และพระธรรมแล้ว” แค่นั้นเอง

และพวกเขาไม่ได้สอนอะไรฉันเลย ที่เรียกว่าพระสองรูป พระใหญ่และวัด พวกเขาไม่ได้สอนอะไรฉันเลย ไม่มากไปกว่าแม่ชี ที่สอนฉัน หรือให้พระสูตรแก่ฉันด้วยซ้ำ แล้วพอฉัน ไปเรียนที่อื่น พวกเขาก็ว่าฉันว่า เป็นพวกนอกรีตหรืออะไรประมาณนั้น พวกเขาไม่ได้สอนฉันอะไรเลย พวกเขาควรจะสอนฉันให้ ไม่เป็นคนนอกรีต ถ้าฉันเป็นพวกนอกรีต

แต่อย่าสนใจเลย มนุษย์ พระและแม่ชี ก็เป็นมนุษย์เช่นกัน พวกเขายังไม่ใช่นักบุญ เพราะเหตุนี้ พระพุทธเจ้า แตกต่างไป พระพุทธเจ้าเกิดมาเป็นมนุษย์ แต่พระองค์ไม่ใช่มนุษย์ พระองค์ตรัสว่า พระองค์ทรงเป็น พระพุทธเจ้ามาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ครั้งนี้พระองค์กลับมา อีกครั้งหลังจากทรงทำกิจ ในโลกมนุษย์ครบถ้วนแล้ว มันเป็นอย่างนั้น นี่จึงก็เป็นครั้งสุดท้าย พระองค์ทรงกระทำกิจครบถ้วนแล้ว เป็นพระพุทธเจ้าจนได้เป็น พระพุทธเจ้าอีกครั้งหนึ่งแล้ว แค่นั้น แต่พระองค์ทรงเป็นพระพุทธเจ้า มาชั่วกาลนานก่อนนั้น กัปกัลป์ อสงไขย เป็นเวลานับไม่ถ้วนของโลก สวรรค์ ถูกทำลาย ถูกสร้างขึ้นมา-พระองค์ทรงเป็น พระพุทธเจ้ามานานแล้ว นานจนคุณไม่สามารถนับได้ นั่นเรียกได้ว่าเป็นเวลา หลายอสงไขย เช่นเดียวกับพระศรีอริยเมตไตรย และพระพุทธเจ้าองค์อื่น ๆ อีกมาก มนุษย์ก็สามารถ เป็นพระพุทธเจ้าได้ แน่นอน

Photo Caption: เหี่ยวเฉาเพื่อปกป้อง ชีวิตในฤดูใบไม้ผลิครั้งต่อไป!

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
ทุกตอน  (13/20)
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
36:47

ข่าวเด่น

236 รับชม
2024-12-07
236 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์