ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

พระเจ้าจะให้อภัยเรา ถ้าเราให้อภัยผู้อื่น

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม

ฉันกังวลว่ายูเครน (ยูเรน) หลังจากอดทนมานาน และปกป้องอย่างอ่อนข้อ วันหนึ่งพวกเขาจะทนไม่ไหว วันหนึ่งพวกเขาคิดว่า พวกเขาโดนมาพอแล้ว พวกเขาก็จะโจมตีรัสเซีย […] ฉันกังวลว่ามันอาจทำให้ สงครามขยายใหญ่ขึ้นและยาวนานขึ้น […] คุณไม่ควรทดสอบความอดทน ของผู้คนนานเกินไป คุณไม่ควรกดขี่ใคร นานเกินไป จนเกินทน - แล้วพวกเขาจะสู้กลับ [...] คุณไม่ควรแปลกใจ ตอนนี้ รัสเซีย ฉันหมายถึงเครมลิน ผู้นำของรัสเซีย ก็ได้ลิ้มรสการกระทำของตัวเอง [...]

( เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สำนักพระราชวังได้ ก้าวลงจากตำแหน่ง โดยมีผลในทันที หลังจากที่เธอแสดงความคิดเห็น ต่อเจ้านายฝ่ายการกุศลผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเข้าร่วมงาน ที่พระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเธอได้รับเชิญไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ รายงานบางฉบับกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกไล่ออก เนื่องจากความคิดเห็น เหยียดผิวและรับไม่ได้ มีรายงานว่า บุคคลนี้เป็นนางสนอง พระโอษฐ์ของพระราชินีผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นแม่ทูนหัวของเจ้าชายวิลเลียม บางคนบอกว่า สมาชิกราชวงศ์เหยียดผิว พวกเขาเหยียดผิวจริงหรือครับอาจารย์? ) […]

บางครั้งผู้คนไม่รู้ว่า จะถามอะไรอีกเมื่อพวกเขา พบคน ๆ หนึ่งเป็นครั้งแรก [...] ดังนั้น หากคุณมีโอกาส ใกล้ชิดกับมนุษย์คนอื่น แต่ไม่ได้มีสีผิวเดียวกับคุณ เธอ/เขาจะถามคุณว่า “คุณมาจากไหน?” [...] เลดี้ซูซาน ได้รับการฝึกฝนให้ทำงานนี้ เพื่อปกป้องพระราชินี นั่นเป็นเหตุผลที่เธอได้รับความไว้วางใจ จากเจ้าชายวิลเลียมด้วยซ้ำ หรือเธออยากรู้ จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอต้องถาม! […]

สมาชิกราชวงศ์ เหยียดผิวหรือไม่ ... ฉันไม่คิดอย่างนั้น เพราะเหตุใดจึงควร เป็นอย่างนั้น? พวกเขาเชิญมาดามฟูลานีคนนี้มา โดยรู้ ว่าเธอเป็นคนผิวสี (ครับ อาจารย์) พวกเขาจะเหยียดเชื้อชาติได้อย่างไร ถ้าพวกเขาเชิญเธอมา? [...]

ทำไมเธอ (เลดี้ซูซาน) ถึงต้องการ ทำให้แขกคนสำคัญขุ่นเคือง? ฉันไม่คิดว่ามันมีเหตุผล แค่นั้น ใช่ (เข้าใจครับ อาจารย์ ครับ อาจารย์) ดังนั้น ฉันหวังว่ามาดามฟูลานี ซึ่งเป็นผู้มีจิตกุศล และเป็นหัวหน้า ขององค์กรการกุศล จะใจบุญพอ ที่จะให้อภัยเหตุการณ์นี้ และผูกมิตรกับ เลดี้ซูซาน ฮัสซีย์ นางสนองพระโอษฐ์ [...]

เพราะพระเจ้าจะทรงยกโทษให้เรา หากเราให้อภัยผู้อื่น แม้ว่านั่นจะเป็นการล่วงเกินก็ตาม [...]

ในวันพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2022 ระหว่างการสนทนา กับสมาชิกทีมงาน โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ ผู้เมตตาที่สุดของเรา (วีแกน) ได้บอกเคล็ดลับด้วยความรักในการ รักษาร่างกายให้แข็งแรงแก่พวกเขา หลังจากนั้นท่านได้แบ่งปัน ความคิดของท่าน เกี่ยวกับรายงานข่าวล่าสุดบางเรื่อง รวมถึงรายงานข่าว เกี่ยวกับยูเรน (ยูเครน) และราชวงศ์อังกฤษ

( ยูเรน (ยูเครน) รายงาน การโจมตีด้วยโดรนสองครั้งล่าสุด เกิดขึ้นลึกเข้าไปในรัสเซีย ) โอ ( แม้ว่าพวกเขาจะยัง ไม่ได้อ้างความรับผิดชอบ แต่พวกเขาก็ปรบมือให้กับ การโจมตีเป้าหมายทางทหารเหล่านี้ แทนที่จะเป็นโครงสร้าง พื้นฐานของพลเรือน ) โอ้ ( ผมประหลาดใจที่ยูเครน กำหนดเป้าหมายในรัสเซีย ) คุณประหลาดใจหรือ? (ครับอาจารย์ ใช่ครับ) ฉันก็เช่นกัน ฉันประหลาดใจ ฉันประหลาดใจ – ทำไมเป็นตอนนี้? ทำไมใช้เวลานานมาก? (ใช่ครับ)

ฉันกังวลเกี่ยวกับเรื่องนั้น ฉันกังวลว่ายูเครน (ยูเรน) หลังจากอดทนมานาน และปกป้องอย่างอ่อนข้อ วันหนึ่งพวกเขาจะทนไม่ไหว วันหนึ่งพวกเขาคิดว่า พวกเขาโดนมาพอแล้ว พวกเขาก็จะโจมตีรัสเซีย ฉันกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ มานานแล้ว (โอ ครับ ครับ อาจารย์) ฉันกังวลว่ามันอาจทำให้ สงครามขยายใหญ่ขึ้นและยาวนานขึ้น (ครับ อาจารย์)

" Media Report from Al Jazeera – Dec. 7, 2022 Anchor (m): โดรนของยูเครนถูกใช้ โจมตีสนามบิน ในเขตชายแดนเคิร์สต์ของรัสเซีย ตามคำกล่าวของผู้ว่าการ การโจมตีในช่วงเช้าของวันอังคาร ทำให้อ่างเก็บน้ำมันลุกเป็นไฟ กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวหา ยูเครนในการโจมตีสองครั้ง เมื่อวันจันทร์ มอสโกกล่าว ว่าทหารสามคนถูกสังหาร

Alex (m): ดังนั้น สิ่งที่เราเห็นตอนนี้ คือเป้าหมายของรัสเซีย ถูกโจมตีลึกภายในประเทศ เป็นครั้งแรกในความขัดแย้ง การใช้โดรนของยูเครน เป็นเรื่องเชิงกลยุทธ์ ในแง่ที่ว่าแม้ว่าความเสียหาย จะน้อยมาก ดังที่เราเห็นที่นี่ แต่พวกเขาได้โจมตีฐานสองฐาน ที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ต่อกองทัพของรัสเซีย ฐานทัพเหล่านี้เป็นที่ตั้งกองกำลัง ทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของรัสเซีย และมันแสดงให้รัสเซียเห็น ว่าไม่มีที่ไหนจะคงกระพัน "

ในเอาหลัก (เวียดนาม) เราพูดว่า “กอนซูนม่าบิดับน๋อ กุ๋งโก้ยเด่าไหล” แปลว่า แม้แต่ไส้เดือน ที่รักสงบและต่ำต้อย แต่ถ้าคุณเหยียบพวกเขา พวกเขายังกับหันหัวมา พยายามป้องกันหรือตอบโต้ แม้ว่า อันที่จริง พวกเขา ไม่รู้วิธีโจมตี หมายความว่าคุณไม่ควร ทดสอบความอดทนของผู้คน นานเกินไป คุณไม่ควรกดขี่ใคร นานเกินไป จนเกินทน - แล้วพวกเขาจะสู้กลับ นั่นเป็นเรื่องปกติ (ครับ อาจารย์)

คุณไม่ควรแปลกใจ ตอนนี้ รัสเซีย ฉันหมายถึงเครมลิน ผู้นำของรัสเซีย ก็ได้ลิ้มรสการกระทำของตัวเอง (ครับ อาจารย์) และมันก็แค่เล็กน้อย และชาวยูเครน (ชาวยูเรน) กรุณามาก ๆ อยู่แล้ว หมายถึง สงครามไม่เคยดี แต่อย่างน้อยพวกเขาไม่ได้ กำหนดเป้าหมายพื้นที่พลเรือน เช่น อพาร์ตเมนต์หรืออะไรก็ตาม ที่เกี่ยวข้องกับพลเรือน (ใช่ จริงครับ)

พวกเขาเพียงตอบโต้อย่างตรงไปตรงมา แบบสุภาพบุรุษอย่างแท้จริง อย่างน้อยเราต้อง ยอมรับเรื่องนั้น เกี่ยวกับชาวยูเครน (ชาวยูเรน) ถ้านั่นคือการโจมตีของพวกเขา พวกเขาเป็นคนดี พวกเขาเป็นสุภาพบุรุษ แบบชายต่อชาย ไม่พยายามทำร้ายผู้บริสุทธิ์อื่น ๆ เช่น พลเรือนอื่น ๆ ซึ่งไม่เกี่ยวข้อง กับสงคราม พวกเขาไม่มีอิทธิพลต่อเครมลิน แม้ว่าพวกเขาจะออกไปประท้วง รัฐบาล หรือระบอบการปกครองของปูติน ก็จะจำคุก หรือวางยาพิษพวกเขา หรือฆ่าพวกเขาอย่างลึกลับ (ครับ)

รายชื่อผู้เสียชีวิตอย่างลึกลับ เพราะปูตินหรือเครมลิน ยังคงมีต่อไป ยังไม่หยุด ผู้คนตายอย่างลึกลับ อย่างต่อเนื่อง - ใครก็ตาม ที่ต่อต้านสงครามในยูเครน ไม่พูดถึงคนภายนอก หรือประชาชนพลเรือน คนเหล่านี้ที่ตายอย่างลึกลับ แท้จริงแล้วเป็นพันธมิตร ที่แข็งแกร่งของปูติน แต่แม้ว่าพวกเขา ที่เรียกว่าเพื่อนหรือพันธมิตร ก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ดังนั้นพวกเขา จึงต้องออกความเห็น - แล้วพวกเขาก็ตายไป “อย่างลึกลับ” (ครับ อาจารย์) “ลึกลับ” ตลอดเวลา แล้วรายชื่อก็เพิ่มขึ้น (ครับ อาจารย์)

" Media Report from WION Sep. 3, 2022 Palki Sharma (f): แปดคนเสียชีวิตอย่างแปลกประหลาด ภายในเวลาไม่ถึงเก้าเดือน ทั้งหมดนี้ เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ บริษัทน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย โอกาส ที่จะเกิดขึ้นเป็นได้ยังไง? แน่นอนว่ามีการคาดคะเน – ยักษ์ใหญ่น้ำมันเหล่านี้ ต่อต้านสงครามของปูติน ในยูเครนหรือไม่? และถ้าเป็นเช่นนั้น นั่นทำให้พวกเขา เสียชีวิตก่อนวัยอันควรหรือไม่? "

" Media Report from CNN Sep. 15, 2022 Ana Cabrera(f): เหตุใดพนักงานของ บริษัทพลังงานเหล่านี้ จึงตกเป็นเป้าหมาย

Tom Foreman (m): เพราะบริษัทพลังงาน เหล่านี้พูดถึง ปัญหาการรุกราน ยูเครนตั้งแต่ตอนต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ลูคอยล์ ได้ออกแถลงการณ์นี้ในเดือนมีนาคม “เราขอแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ ต่อเหยื่อทุกคนที่ได้รับผลกระทบ จากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ เราขอสนับสนุน การหยุดยิงไปตลอดกาล และการยุติปัญหา ผ่านการเจรจาและ การทูตอย่างจริงจัง” สิ่งนี้ไม่ได้ทำให้เครมลิน มีความสุขอย่างแน่นอน "

จึงไม่น่าแปลกใจเลย (ใช่ครับ) ฉันแค่แปลกใจ ที่มันใช้เวลานานมาก (ใช่ครับ) แต่ก็เป็นเพราะ ก่อนหน้านี้ โจ ไบเดนสัญญาว่า จะให้อาวุธปืนใหญ่พิสัยไกล แก่ยูเครน (ยูเรน) พิสัยไกล อาจจะทำนอง 80 กิโลเมตร(ครับ) แต่พวกเขาห้ามไม่ให้ยูเครน (ยูเรน) กำหนดเป้าหมายภายในรัสเซีย มิฉะนั้นพวกเขาจะไม่ให้ อาวุธเพิ่มอีก หรืออาวุธที่ทรงพลัง หรืออาวุธที่แข็งแกร่งกว่าแก่พวกเขา แต่ตอนนี้ ฉันคิดว่ายูเครน (ยูเรน) เพียงใช้แต่โดรน อาจจะเป็นโดรนของพวกเขาเอง - ทำเองด้วยซ้ำ (ครับ)

" Media Report from AI Jazeera Dec. 7, 2022 Alex Gatopoulos (m): และตอนนี้ดูเหมือนว่า ถ้าเรานำภาพเหล่านี้ขึ้นมาได้ ชาวยูเครนใช้ ตูโปเลฟ-141 ซึ่งเป็นโดรนรุ่นเก่าของโซเวียต เราสามารถดูได้ที่นี่ ปกติจะถือกล้อง แต่กองทัพยูเครน ได้ปรับแต่งเพื่อให้สามารถใส่ หัวรบขนาดเล็ก - เราคิดว่าประมาณ 75 กิโลกรัม ตอนนี้พวกเขามีไม่มากนัก แต่พวกเขามีจำนวนหนึ่งอย่างแน่นอน และพวกเขาสามารถแสดง ให้ชาวรัสเซียเห็นในขณะนี้ว่า พวกเขาสามารถโจมตีได้ลึก ภายในประเทศของรัสเซียได้ "

ฉันไม่รู้เกี่ยวกับโดรนของพวกเขา มากนัก แต่กำหนดพิสัยไกล กระทั่งถึง 400 กว่าไมล์ เข้าไปในรัสเซียจากชายแดนด้วยซ้ำ นั่นเป็นระยะที่ไกล (ครับ) ฉันพูดถึง 400 ไมล์ นั่นคือประมาณ 640 กิโลเมตร จากเขตแดน (ครับ อาจารย์) เข้าไปในแผ่นดินค่อนข้างไกล และฉันสงสัยว่าเป็นโดรนชนิดไหน ที่ทรงพลังขนาดนั้น ไม่น่าแปลกใจที่รัสเซีย พยายามดิ้นรนหา มาตรการป้องกันตอบโต้ (ครับ อาจารย์) นั่นเป็นครั้งที่สองด้วยซ้ำ

มีอะไรอีกไหม ? ( ครับ อาจารย์ เปสคอฟ โฆษกของปูตินกล่าวว่าเจ้าหน้าที่ กำลังใช้มาตรการ "จำเป็น" เพื่อปกป้องรัสเซียจากการโจมตี ของชาวยูเรน (ชาวยูเครน) รัสเซียน่าจะ ตื่นตระหนก และคิดว่าจะจัดการ กับสถานการณ์ใหม่นี้อย่างไร )

แน่นอนว่าพวกเขาน่าจะตื่นตระหนก (ใช่ครับ) แน่นอน พวกเขาคิดอะไร? พวกเขาคาดว่าอะไรจะเกิดหรือ? คุณคิดได้อย่างไรว่า มีแต่คุณเท่านั้น ที่จะทำอะไรก็ได้กับประเทศอื่น ตามที่คุณต้องการหรือ? เข้าไปภายในและทำลาย เมืองทั้งหมดของพวกเขา และข่มขืนผู้หญิงของพวกเขา รวมถึงทารกและเด็กเล็ก ๆ ของพวกเขาแบบนั้น และคาดว่าประเทศนี้ จะไม่ทำอะไรกับคุณเลยหรือ? (ใช่ครับอาจารย์ ถูกต้องครับ) พวกเขาผ่อนปรนมากแล้ว พวกเขาเพียงแค่มุ่งเป้าทางทหาร (ใช่ ถูกต้องครับ ครับ อาจารย์)

ในสงครามถ้าคุณโจมตีพวกเขา พวกเขาจะโจมตีคุณ และมันนาน เก้าหรือ 10 เดือนแล้ว กับปัญหามากมาย ความรุนแรงมากมาย ต่อยูเรน หมายถึงยูเครน พวกเขาทนทุกข์ทรมาน มาทั้งหมดนี้ ตอนนี้พวกเขาโต้กลับ (ครับ ท่านอาจารย์ ครับ) และไม่มากเท่ากับ ที่รัสเซียทำกับพวกเขา เมืองหลายเมืองของพวกเขาหายไป เกลี้ยง! (ครับ) ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ถูกทำลายไปหมด โครงสร้างพื้นฐานและอาคารสำคัญ มากมาย - ไปหมดแล้ว! และฤดูหนาวกำลังจะมาถึง พวกเขาทำลายโรงไฟฟ้าทั้งหมด และทั้งหลายนั้น และผู้คนในยูเครน (ยูเรน) ตอนนี้หนาวเหน็บไม่มากก็น้อย (ใช่ครับ)

" Media Report from CNN Dec. 5, 2022 Reporter (m): ในยูเครน ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง ในเมืองหลวงเคียฟ รัฐมนตรีต่างประเทศเตือน หิมะจะไม่ใช่สิ่งเดียว ที่ตกลงมาจากฟากฟ้า

Dmytro Kuleba (m): เรากำลังรอการโจมตี ด้วยขีปนาวุธขนาดใหญ่อีกครั้ง โดยรัสเซีย และเป้าหมายของการโจมตีครั้งนี้ คือการนำมาซึ่งความพินาศสิ้นเชิง ต่อระบบพลังงานของเรา

Reporter (m): ลูกเรือกำลังเร่งฟื้นฟูพลังงาน เต็นท์เหล่านี้ตั้งขึ้นโดย รัฐบาล - การหยุดพักที่จำเป็นอย่างมาก จากความหนาวเย็นอันขมขื่น "

" Media Report from CBS Dec. 3, 2022 Imtiaz Tyab(m): นับตั้งแต่การล่าถอยอันน่าอัปยศอดสู ของพวกเขา มอสโกได้ทำลาย เคอร์ซอนอย่างไม่ลดละ มันเป็นความทุกข์ยาก อนาสตาเซีย อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย รู้ดีมาก มันหนาวมาก คุณไม่มีไฟฟ้า คุณไม่มีเครื่องทำความร้อน คุณไม่มีน้ำ แต่คุณมีอิสรภาพ

Anastasia (f): เรามีอิสรภาพ

Imtiaz Tyab (m): คุณมีอิสรภาพ

Anastasia (f): ใช่ สิ่งนี้มีค่ามากกว่าสำหรับเรา

Imtiaz Tyab (m): แต่เสรีภาพนั้น ห่างไกลจากการรับประกัน ในขณะที่รัสเซียยังคงดำเนิน ทำลายเคอร์ซอนต่อไป ทำลายล้างโครงข่ายพลังงานของมัน แต่เท่าที่เราได้ยินมา มีคนบอกว่าพวกเขาอยากมีชีวิตอยู่ โดยไม่มีอาหาร น้ำ หรือความร้อน มากกว่าอยู่ภายใต้การยึดครอง ของรัสเซียอีกครั้ง "

ฉันหวังว่าพวกเขาจะรอดฤดูหนาวนี้ได้ ฉันหวังว่าพวกเขาจะอยู่รอด และเด็ก ๆ สามารถรอด ฤดูหนาวอันโหดร้าย ที่ตอนนี้พวกเขาไม่มีไฟฟ้า และไม่มีแก๊ส (ใช่ครับ อาจารย์) ไร่นาของพวกเขาถูกทำลาย พืชผลของพวกเขาถูกรัสเซียขโมยไป ผู้หญิงและเด็กของพวกเขา ถูกลวนลาม กักขัง ทรมาน และถูกสอบสวน (ใช่ครับ อาจารย์) ใครจะทนได้? เนื่องจากรัสเซียบีบพวกเขา ให้จนมุม เหตุนี้พวกเขาจึงโต้กลับ ไม่ว่าทางไหน คุณก็ตายอยู่ดี (ครับ ใช่ครับอาจารย์)

พวกเขาจึงยอมตาย เพื่อปกป้องประเทศ ปกป้องผู้หญิง และเด็ก ๆ ของพวกเขายังดีเสียกว่า ตายในมือรัสเซีย ในสถานการณ์ ที่ทรมานและปวดร้าว หรืออิดโรยในคุก (ใช่ครับ อาจารย์) รัสเซียบีบบังคับยูเครน (ยูเรน) ให้โต้กลับเช่นนี้ ฉันแค่แปลกใจ ที่พวกเขาอดทนมาตลอด จนถึงบัดนี้ พวกเขาทำแค่ตั้งรับ ไม่บุก (ใช่ครับ ครับ เข้าใจครับอาจารย์) ดังนั้นไม่มีใครแปลกใจ จริงนะ ไม่มีใครควรแปลกใจ (ใช่ครับ) ผู้นำรัสเซียไม่ควร แปลกใจด้วยซ้ำ เป็นไปได้อย่างไร? คุณเข้าไปปล้นบ้านคนอื่น ทุบตีและฆ่า สมาชิกในครอบครัวของพวกเขา แล้วคาดว่าพวกเขาไม่ทำอะไรเลยหรือ? (ใช่ครับ ถูกต้องครับ อาจารย์)

มีอะไรอีกไหม? ( ครับ อาจารย์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของ สำนักพระราชวังได้ ก้าวลงจากตำแหน่ง โดยมีผลในทันที หลังจากที่เธอแสดงความคิดเห็น ต่อเจ้านายฝ่ายการกุศลผิวดำคนหนึ่ง ซึ่งกำลังเข้าร่วมงาน ที่พระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งเธอได้รับเชิญไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ รายงานบางฉบับกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงถูกไล่ออก เนื่องจากความคิดเห็น เหยียดผิวและรับไม่ได้ )

" Media Report from Global News – Dec. 2, 2022 Ngozi Fulani (f): ดังนั้นเธอจึงเริ่มถามฉัน ว่าฉันเป็นใคร ฉันมาจากไหน ฉันเลยพูดว่า “ฉันมาจากซิสต้าสเปซ เป็นองค์กรที่สนับสนุน ผู้หญิงและเด็กผู้หญิง เชื้อสายแอฟริกาและแคริบเบียน” แล้วเธอก็พูดว่า "โอ้ คุณ มาจากส่วนไหนของแอฟริกา" และฉันก็พูดว่า “ฉันไม่รู้ พวกเขาไม่ได้ทิ้งบันทึกใด ๆ ไว้เลย” และนั่นคือความจริงของฉัน ใช่ไหม? ฉันติดตามไม่ได้ว่าส่วนไหน จากนั้นเธอก็พูดว่า “ไม่ แต่คุณมาจากไหน" ฉันตอบว่า “ไม่ ซิสต้าสเปซ ตั้งอยู่ในแฮ็คนีย์” “ไม่ แต่คุณมาจากไหน?”

ตอนนี้ ฉันคิดว่า มันค่อนข้างอึดอัดนิดหน่อย แต่ โอเค มันคือคำถาม “ฉันมาจากที่นี่ ฉันเกิดที่นี่" “ใช่ แต่จริง ๆ แล้วคุณมาจากไหน?” “ฉันมาจากที่นี่จริง ๆ” “ใช่ แต่โอเค ก็ ฉันเห็นว่านี่จะ ค่อนข้างท้าทาย” เธอถามว่า “คุณเป็นคนสัญชาติอะไร” และฉันก็พูดว่า “ท่านหญิง ฉันเกิดที่นี่ ฉันเป็นคนอังกฤษ" ฉันคิดว่า มันคงเป็นจะจบ ไม่ “ไม่ แล้วจริง ๆ คุณมาจากไหน? คนของคุณมาจากไหน?” “ท่านหญิง คนของฉันหรือ” นี่คืออะไร? "

( มีรายงานว่า บุคคลนี้เป็นนางสนอง พระโอษฐ์ของพระราชินีผู้ล่วงลับไปแล้ว เป็นแม่ทูนหัวของเจ้าชายวิลเลียม บางคนบอกว่า สมาชิกราชวงศ์เหยียดผิว พวกเขาเหยียดผิวจริงหรือครับอาจารย์? ) ฉันต้องอยู่ที่นั่น เพื่อเห็นทัศนคติ ที่มากับการพูดคุย (ครับ อาจารย์) แต่บางครั้งผู้คนก็แค่… มันมีสองฝ่าย การเต้นแทงโก้ต้องมีสองคน ฝ่ายหนึ่งอาจไม่อ่อนไหวเกินไป อยากรู้อยากเห็นมากไป และอีกฝ่ายหนึ่งอ่อนไหวเกินไป อาจเป็นอย่างนั้นก็ได้ (ครับ อาจารย์) เพียงในโลกของเรา เรามีผิวสีต่างกัน และนั่นคือปัญหา ที่จริงแล้ว แล้วมันไม่ใช่ความผิดของใครเลย

ฉันก็มีปัญหาของตัวฉันเองเช่นกัน ตอนนี้ฉันจะเล่าเรื่องของฉันให้คุณฟัง ตอนฉันยังเด็ก มีผู้ชายคนหนึ่งต้องการเดทกับฉัน ในเดทแรก เขาถามฉันทันทีว่า “คุณมาจากไหน?” นั่นคือคำถามแรกที่เขาถาม และฉันรู้สึก อารมณ์เสียทันที ฉันพูดว่า “ทำไม? ทำไมถามคำถามนี้” และผู้ชายคนนั้นก็ประหลาดใจมาก กับท่าทีอารมณ์เสียของฉัน เขาพูดว่า “ผมแค่พยายามจะคุยด้วย!” ฉันพูดว่า “คุณสามารถพูดอะไรก็ได้ เพื่อให้การสนทนา น่าสนใจมากกว่านี้ คุณไม่ควรอยู่ดี ๆ ก็ถามคำถาม ที่น่าเบื่อแบบนี้กับคนอื่น” นั่นคือสิ่งที่ฉันพูดกับเขา นั่นคือเดทแรก และสุดท้าย […]

บางคนเป็นเช่นนั้น พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ จะเหยียดผิวหรืออะไร เพราะในสถานการณ์นั้น ถ้าผู้ชายคนนั้นเหยียดผิว เขาคงไม่อยากเดทกับฉัน (ใช่ครับ ท่านอาจารย์) เขาคงคิดอยู่แล้วว่า “โอ้ เธอเป็นคนเอเชีย” และผู้ชายคนนั้นเป็นชาวตะวันตก (ใช่ครับ อาจารย์) เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น ในตอนนี้ ฉันสงสารเขามาก ฉันควรจะทำดีกับเขามากกว่านี้ แต่มีคนถามคำถามเดิม ๆ บ่อยเกินไป ทุกที่ที่ฉันไป ฉันเลยเบื่อ (ครับ อาจารย์ เข้าใจครับ)

มันน่าเบื่อมาก และฉันต้อง ตอบคำถามเดิม ๆ เสมอ เพราะฉันอยู่ในโลกตะวันตก ในตอนนั้น นั่นคือเหตุผล ถ้าฉันอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง หรือไต้หวัน (ฟอร์โมซา) อาจจะไม่มีใครมองฉันด้วยซ้ำ เพราะเราหน้าตาเหมือนกัน หรือในประเทศไทย ลาว หรือกัมพูชา ถ้าฉันออกไปซื้อของ จะไม่มีใครถามอะไรฉัน เพราะฉัน ดูเหมือนพวกเขา (ครับ อาจารย์ ครับ)

ดังนั้น มันไม่ใช่ความผิดของเขา มันไม่ใช่ความผิดของฉันด้วย แต่หลังจากนั้น ฉันรู้สึกสงสารเขามาก ฉันคุยกับเขาและพูดว่า "ฉันขอโทษ" […] ประเด็นคือ ฉันอารมณ์เสียกับผู้ชายคนนี้ เขาใจดีมาก และเขาปฏิบัติต่อฉันอย่างดีมาก และเป็นสุภาพบุรุษมาก แต่มันแค่คำถามแรกของเขาคือ “คุณมาจากไหน?” สิ่งนั้นทำให้ฉันผิดหวัง ฉันผิดหวัง […]

ทีนี้ เหตุผล... หลังสงครามในเอาหลัก (เวียดนาม) ผู้คนหลายล้านคนพยายาม หลบหนีไปตามเส้นทางต่าง ๆ โดยเฉพาะทางทะเล และหลายคนเสียชีวิต แม้ว่าพวกเขาไม่ตาย บางครั้ง พวกเขาถูกข่มขืน และโดนปล้น โจรสลัดกระชากต่างหู จากหูของพวกเขา และปล่อยให้หูขาด และเลือดออก (ว้าว) หรือเอาเครื่องประดับจากมือ ของพวกเขา และทำให้ข้อมือ ของพวกเขาหัก เป็นต้น (โอ้ โอ้ พระเจ้า) หรือข่มขืนแม่ ต่อหน้าลูก หรือภรรยาต่อหน้าสามี อะไรทำนองนั้น

" Sea of Memory - My Dad's Boat Journey, 1979 Nam Nguyen (m): เราถูกโจรสลัดไทยโจมตี ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงบ่าย และเย็นวันนั้น ทีละคน โจรสลัด ซึ่งเป็นชาวประมง นุ่งโสร่งถือมีดใหญ่ ฆ้อน หรือท่อนเหล็ก กระโดดลงจากเรือ มายังเรือของเรา พวกโจรสลัดตะโกน เป็นภาษาที่ฉันไม่เข้าใจ เรือของเราเต็มไปด้วยผู้คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้หญิงและเด็ก หญิงสาวและเด็กผู้หญิง ตื่นตระหนก สวมเสื้อผ้าหลายชั้น พวกเขาถูหน้าและผม ด้วยน้ำมันจากพื้น เพื่อทำให้ดูน่าเกลียด โจรสลัดชี้มีดและ ค้อนไปที่หน้าอก หรือคอของผู้คน พวกเขาตรวจค้นร่างกายเรา และฉีกเสื้อผ้าของเรา พวกเขาค้นหาหู จมูก ปาก ผม และ แม้กระทั่งอวัยวะเพศ พวกเขาเทน้ำมันและ ภาชนะบรรจุน้ำออก พวกเขาถึงกับตัดถุงข้าว เพื่อหาเงินและเครื่องประดับ พวกเขาโยนข้าวของทั้งหมดของเรา ไปที่เรือของพวกเขา "

ฉันได้ยินเรื่องราวทั้งหมดของพวกเขา เพราะฉันไปเยี่ยมพวกเขา และฉันยังทำงานให้กับ ค่ายผู้ลี้ภัยสองสามแห่ง และให้กับสภากาชาด และฉันรู้เรื่องทั้งหมดนี้ และมันแย่มากสำหรับฉัน ในตอนนั้น […] ฉันไปที่ค่ายผู้ลี้ภัยบางแห่ง และ พวกเขาปฏิบัติต่อพวกเขาเหมือนธุลี พวกเขาให้พวกเขานั่งบนพื้น และข้าหลวงใหญ่นั่งบนเก้าอี้สูง ซักถามพวกเขา อย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างนั้นเป็นต้น

และฉันรู้สึกละอายใจมาก ละอายใจเกินกว่าจะเป็นชาวเอาหลัก (เวียดนาม) ในตอนนั้น ดังนั้นใครก็ตาม ที่ถามคำถามนั้นกับฉัน ฉันพยายามหลีกเลี่ยงที่จะตอบ ฉันพยายามซ่อนอยู่เสมอว่า ฉันมาจากไหน ฉันรู้สึกละอายใจจริง ๆ ละอายใจมากจริง ๆ ที่เป็นคนเอาหลัก (เวียดนาม) ในตอนนั้น ฉันใช้เวลานานหลายปีหลังจากนั้น กว่าฉันจะรู้สึกดีขึ้น แต่พูดตรง ๆ กับคุณ ฉันยังไม่รู้สึกดีขึ้นเลย ฉันยังไม่รู้สึกดี หรือภูมิใจ ที่เป็นชาวเอาหลัก (เวียดนาม) (ครับ เราเข้าใจครับ อาจารย์)

ดังนั้น ฉันจึงมี ปมด้อยแบบนี้อยู่ในตัว และความเหนื่อยล้า ที่ต้องตอบคำถามเดิม ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่ผู้ชายคนนั้น มันไม่ใช่ความผิด ของเขา เขาแค่ถามคำถามธรรมดา แค่ว่าฉันไม่ปกติ ฉันไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ปกติ ฉันไม่ได้มาจากประเทศปกติ (ครับ ท่านอาจารย์ เข้าใจครับ ท่านอาจารย์)

แล้วฉันก็รู้สึก ละอายใจมากแล้ว ฉันพยายามอย่างมาก ที่จะปกปิดตัวตนของฉันตลอดเวลา เมื่อใดก็ตามที่ฉันทำได้ และใครก็ตามที่ถามคำถามนั้นกับฉัน ฉันหนีพวกเขาทันที ฉันไปที่อื่น คุยกับคนอื่น ที่รู้จักฉันแล้ว และไม่ถามคำถามนั้น กับฉันอีก แต่คนเหล่านี้ถาม เพราะพวกเขาสนใจ ไม่ใช่เพราะ พวกเขาเหยียดผิว (ใช่ครับ ท่านอาจารย์) ฉันบอกคุณแล้ว ถ้าผู้ชายคนนั้น เหยียดผิว เขาคงไม่ชวนฉัน ไปเดท […]

บางครั้งผู้คนไม่รู้ว่า จะถามอะไรอีกเมื่อพวกเขา พบคน ๆ หนึ่งเป็นครั้งแรก ฉันไม่แน่ใจว่า ถ้าฉันเป็นมารดาอุปถัมภ์ ของเจ้าชายวิลเลียม ฉันจะสามารถควบคุมตัวเอง และไม่ถามผู้หญิงคนนั้นว่า “คุณมาจากไหน?” ได้หรือไม่ เพราะตามความเห็นของฉัน ความรู้สึกของฉันคือ เลดี้ซูซาน ฮัสเซย์ เคยเป็นที่โปรดปรานของพระราชินี และพระราชินีก็ต้องการ ที่จะให้เธออยู่ในวัง เพื่อช่วยงาน อะไรก็ตามที่เธออยากทำ ให้กับกษัตริย์องค์ใหม่ด้วยซ้ำ และเธอเป็นมารดาอุปถัมภ์ ของเจ้าชายวิลเลี่ยม เธอจึงได้รับความเคารพอย่างมาก (ครับ อาจารย์) ฉันอยากจะบอกเหตุผลกับคุณ นั่นเป็นเหตุผลที่พระราชินี ไว้ใจเธออย่างมาก และราชวงศ์ ต้องเคารพเธออย่างมาก ถึงขนาดตั้งเธอ เป็นมารดาอุปถัมภ์ ของมกุฎราชกุมารวิลเลียม มันเป็นเรื่องใหญ่ (ใช่ครับ อาจารย์)

ดังนั้น เนื่องจาก การอยู่เคียงข้างพระราชินี เธอจึงฝึกฝนตัวเอง ให้ระวังอยู่เสมอว่าใครก็ตาม ที่เข้ามาใกล้พระราชินี ควรมีพื้นฐานที่ดี หรือบางอย่างที่เธอควรรู้ เผื่อพระราชินี จะถามเธอว่า “ผู้หญิงคนนั้นมาจากไหน? เธอเป็นใคร? และเธอทำอะไร? ทำไมเธอถึงอยากพบฉัน” อย่างนั้นเป็นต้น เธอจึงต้องรู้ล่วงหน้าว่า การเป็นนางสนองพระโอษฐ์ ต้องอยู่เคียงข้างพระราชินีเสมอ (ครับ ท่านอาจารย์) ดังนั้นอาจเป็นเพราะ การฝึกฝนที่ทำให้เธอทำอย่างนั้น

ฉันเข้าใจที่คุณพูด เพราะฉันก็อ่านข่าวนั้นด้วย อันดับแรก ฉันคิดว่า “โอ้ มันเป็นเพียงกรณีเดียว ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ไม่ใช่เรื่องใหญ่” แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอได้ลงจากตำแหน่ง และหัวหน้าองค์กร การกุศล มาดามฟูลานี รู้สึกโกรธ และบอกกับ สื่อมวลชนว่า เธอรู้สึกถูกเหยียด ในพระราชวังบักกิงแฮม (ใช่ครับ)

มันเป็นไปไม่ได้ที่ฉัน มีสีผิวแตกต่าง รูปร่างหน้าตา ที่แตกต่าง จะไปในโลกตะวันตก และเข้าไปในสถานที่พิเศษ อย่างเช่นพระราชวังบักกิงแฮม โดยที่ผู้คนไม่สงสัยว่า ฉันมาจากไหน อย่างเช่น ถ้าฉันอยู่ที่นั่น (ครับ อาจารย์) เลดี้ซูซาน ได้รับการฝึกฝนให้ทำงานนี้ เพื่อปกป้องพระราชินี นั่นเป็นเหตุผลที่เธอได้รับความไว้วางใจ จากเจ้าชายวิลเลียมด้วยซ้ำ หรือเธออยากรู้ จนไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เธอต้องถาม! (ใช่ครับ)

แน่นอนว่า เพราะมาดามฟูลานี ดูแตกต่างออกไป ฉันเห็นรูปถ่ายของเธอ เธอดูมีเสน่ห์ด้วยทรงผม ที่สวยงาม ชุดที่สวยงาม และใบหน้าที่สวยงาม และทั้งหมดนั้น และเลดี้ซูซาน ฮัสซีย์คนนี้ คงไม่รู้จัก มาดามฟูลานีคนนี้มาก่อน เธอแค่อยากรู้ หรือเป็นนิสัยที่ถาม ว่าเธอมาจากไหน อาจจะแค่ไร้เดียงสา หรืออยากรู้เท่านั้น เพราะ “โอ้! ทำไม? โอ้ ผู้หญิงคนนี้สวยจัง ทำไมฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย และทำไมเธอถึงได้รับ สิทธิพิเศษให้เข้าร่วม งานเลี้ยงต้อนรับ ในพระราชวังบัคกิงแฮม” (ใช่ครับ) มันพิเศษมาก ไม่ใช่แค่ใครก็สามารถไปที่นั่นได้ คุณไปที่นั่นได้ไหม? ฉันสามารถไปที่นั่นได้ไหม? ไม่! (ไม่ครับ ไม่ครับ ท่านอาจารย์) คุณอาจจะทำได้ ไม่ใช่ฉัน บางทีพวกคุณ ยังหนุ่มและหล่อ คุณอาจมีโอกาส ฉันซึ่งเป็นหญิงชรา ไปทำอะไรอยู่ในนั้นหรือ?

ดังนั้น เธอจึงประหลาดใจเช่นกัน “โอ้ ผู้หญิงคนนี้ มาจากไหน?” แน่นอน เธอรู้ว่า เธอเป็นพลเมืองอังกฤษ แต่จริง ๆ แล้วบรรพบุรุษ ของเธอมาจากไหน? รากฐานดั้งเดิม ของชีวิตเธออยู่ที่ไหน? แค่อยากรู้หรือสนใจ นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด บางที ฉันอาจตัดสินมัน เพราะเรื่องไร้สาระของฉัน ตอนที่ฉันยังเด็ก (ใช่ครับ)

แต่แน่นอนว่าฉันบอกคุณไปแล้ว ว่าฉันต้องอยู่ที่นั่น เพื่อดูทัศนคติและสัมผัส ถึงพลังของการสนทนา (ครับ ท่านอาจารย์ เข้าใจครับ ท่านอาจารย์) แต่ประเด็นคือ มาดามฟุลานีคนนี้ ไม่ใช่แค่คนธรรมดาด้วยซ้ำ เธอเป็นหัวหน้า องค์กรการกุศล (ใช่ครับ) และน่าจะเก่งมาก จนมีชื่อเสียงถึงขนาด ได้รับเชิญ ให้เข้าไปในพระราชวังของกษัตริย์ มันเป็นเรื่องใหญ่ ที่เธอได้รับเชิญ ให้ไปที่พระราชวังหลวง (ครับ อาจารย์) แน่นอนว่า นี่เกินความอยากรู้อยากเห็นของเธอ และเธอก็ช่วยไม่ได้

เธอถามผู้ชายคนอื่นด้วย... แขกคนหนึ่งบอกกับ สื่อมวลชนว่า เลดี้ซูซาน ฮัสเซย์ ก็ถามเขาด้วยว่า เขามาจากไหน ไม่ใช่แค่มาดามฟูลานีคนเดียว และสุภาพบุรุษยังตอบ เลดี้ซูซาน ฮัสเซย์ว่า เขามาจากไหน เขาบอกว่าเขามาจาก แมนเชสเตอร์ แค่นั้นแหละ อะไรแบบนั้น แล้วเธอก็ไม่ถามอีก

แต่ เห็นไหม เพราะเขาอาจจะไม่ได้ดูแปลกไป จากปกติมากนัก – เขา แต่เธอ – มาดามฟูลานี ดูไม่ธรรมดา (ครับ อาจารย์ ใช่ครับ) ด้วยทรงผมที่สวยงามของเธอ ชุดและรูปลักษณ์ที่สวยงามของเธอ และอะไรทำนองนั้น ผู้คนต่างรู้สึกดึงดูดไปที่เธอ ฉันแน่ใจว่า ไม่ใช่เลดี้ฮัสซีย์คนเดียว ที่ถามเธอว่าเธอมาจากไหน (ครับ อาจารย์) ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้ (ครับ ท่านอาจารย์) และมีส่วนช่วยเหลืออังกฤษ ในงานที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้

ดังนั้น บางทีเธออาจจะรู้สึกเหมือน... บางทีในตอนท้าย เธออาจต้องการพูดว่า ขอบคุณที่ช่วยเหลือ “ไม่ว่าคุณจะมาจากที่ใด ประเทศนั้น - คุณมาถึงที่นี่... พ่อแม่และบรรพบุรุษของคุณ มายังที่แห่งนี้ และตอนนี้ คุณกำลังช่วยอังกฤษ ยินดีต้อนรับและขอบคุณ” ในตอนท้าย เธอคงอยากจะพูดแบบนั้น ถ้าเป็นฉัน ฉันจะพูดอย่างนั้น

และฉันมักจะพูดแบบนี้... สิ่งที่คล้ายกัน ดังนั้นฉันไม่แน่ใจว่า นี่เป็นความเข้าใจผิด หรืออาจเป็นเพราะ มาดามฟูลานี ถูกถามเป็น 10,000 ครั้งแล้ว ในอังกฤษ เธอโดดเด่น โธ่…จะทำอะไรได้? (ครับ ท่านอาจารย์) เธอโดดเด่น ผู้คนอดไม่ได้ ที่จะถามคำถามนั้นกับเธอ ฉันเดาว่าไม่ใช่ คนที่เกิดในอังกฤษแท้ ๆ หรือคนอังกฤษผิวขาวเท่านั้น ที่ถามเธอ ฉันเดาว่าผู้คนจากหลาย ๆ เชื้อชาติ ก็ถามเธอเช่นกัน เพราะเธออยู่ที่อังกฤษ เธอดูไม่เหมือน คนอังกฤษคนอื่น ๆ (ใช่ครับ อาจารย์)

ดังนั้น แท้จริงแล้ว ไม่มีใครผิด เป็นเพียงการที่พระเจ้า สร้างสีสันให้กับเรามากมาย (ใช่ครับ) โอเค นั่นคือสิ่งที่ฉันคิด แต่ฉันขออภัย มาดามฟูลานี หากฉันได้ ล่วงเกินเธอด้วยประการใด ๆ ก็ตาม ฉันมิได้มีเจตนาใด ๆ ด้วยความเคารพ ฉันรักทุกคน และพวกคุณรู้ ใช่ไหม? (ใช่ครับ ท่านอาจารย์) ฉันรักคนผิวดำ และคนผิวสีมาก ฉันเรียกพวกเขาว่า "ช็อกโกแลต" ตลอดเวลา และพวกเขาชอบมัน พวกเขาชอบมัน เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาพบฉัน และถามคำถาม พวกเขาจะบอกว่า “ท่านอาจารย์ ช็อกโกแลตมีคำถาม” อะไรแบบนั้น ฉันพูดว่า “โอเค มาเลย มาเลย เชิญเลย”

โลกก็เป็นแบบนี้ เรามีหลากหลาย เชื้อชาติต่าง ๆ กัน สีผิวต่าง ๆ กัน งานต่าง ๆ กัน แรงบันดาลใจต่าง ๆ กัน ประเทศต่าง ๆ กัน และถ้าเราอยู่ในประเทศอื่น แทนที่จะอยู่ในประเทศของเรา เราก็จะต้อง ถูกถามว่าเรามาจากที่ไหน นั่นคือสิ่งที่แน่นอน ดังนั้น หากคุณมีโอกาส ใกล้ชิดกับมนุษย์คนอื่น แต่ไม่ได้มีสีผิวเดียวกับคุณ เธอ/เขาจะถามคุณว่า “คุณมาจากไหน?” (ใช่ครับ)

โอ้ พวกเขาถามคำถาม ที่น่าอายยิ่งกว่านั้นอีก – สำหรับฉัน มันเป็นเรื่องน่าอาย ฉันได้รับเชิญไปงานเลี้ยง อาหารค่ำในโมนาโก ที่ซึ่งเจ้าชาย อัลเบิร์ตที่ 2 ประทับอยู่ คุณรู้ไหม มันเป็นงานเลี้ยงของท่าน […] ฉันอยู่ตรงนั้น ได้นั่ง ใกล้พระองค์ท่าน และพระบรมวงศานุวงศ์ อีกหลายพระองค์อย่างมาก (ครับ ท่านอาจารย์) และทุกคนก็ถามฉัน... พวกเขามาถามฉันว่า “ท่านมาจากที่ไหน?” และท่านชื่ออะไร?" และฉันต้องบอกพวกเขาทุกอย่าง ฉันเตรียมการไว้แล้ว ฉันแค่อ่านออกเสียงเหมือน ที่คุณท่องจำ ในโรงเรียนอนุบาล หรือโรงเรียนประถม ฉันพูดว่า “ฉันชื่อนั้นชื่อนี้ ฉันเกิดปีหนึ่งเก้านั่นนี่ มาจากที่นั่นที่นี่” และฉันก็พูดแม้กระทั่ง เมืองที่ฉันเกิดด้วย ก็แค่นั้น พวกเขาก็ไป […]

ดังนั้น มันไม่สำคัญ คุณโดดเด่นถ้าคุณ เป็นคนเชื้อชาติอื่นและ ไปใช้ชีวิตหรือคลุกคลีกับ ผู้คนอีกเชื้อชาติหนึ่ง (ครับอาจารย์ ใช่ครับ) […] บางครั้งคน ก็ตรงเกินไป คุณควรสนทนา เล็กน้อยก่อน เพื่อเตรียมรับทางจิต หรือคลุกคลี แต่บางคนเขาแค่ถาม พวกเขาตรงเกินไป เหมือนกับเดทของฉัน ฉันนั่งอยู่บนที่นั่งในรถ แล้วเขาก็ถามทันที ว่า “ท่านมาจากไหน?” เขาเป็นคนดี แต่ช่าง ไร้มารยาทซะอย่างนั้น […]

และอาจเป็นสถานการณ์ที่ คล้ายกันกับมาดามฟูลานี ทุกคนแตกต่างกัน แต่คำถามของ คุณคือสมาชิกราชวงศ์ เหยียดผิวหรือไม่ ฉันไม่คิดอย่างนั้น เพราะเหตุใดจึงควร เป็นอย่างนั้น? พวกเขาเชิญมาดามฟูลานีคนนี้มา โดยรู้ ว่าเธอเป็นคนผิวสี (ครับ อาจารย์) พวกเขาจะเหยียดเชื้อชาติได้อย่างไร ถ้าพวกเขาเชิญเธอมา? พวกเขาเชิญเธอไปที่นั่น (ใช่ครับ) ดังนั้น บางทีผู้หญิงคนนั้น อาจลาออกเพราะเธอรู้สึกว่า มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ และ เธอรู้สึกเสียใจที่ทำให้แขก คนสำคัญขุ่นเคือง เธอจึงลาออก หรือบางทีเธออาจถูกบอกให้ลาออก แบบ พวกเขาไล่เธอออก ฉันรู้สึกเสียใจกับเธอด้วย เธอไม่เคยถูก ซักถาม – คำถามแบบเดียวกันนี้ เช่นเดียวกับคำถาม ที่เธอถามมาดามฟูลานี

แต่เราต่างกัน คนเรามีความรู้สึกไม่เหมือนกัน เราไม่ได้มีภูมิหลังและ สถานการณ์ที่เหมือนกัน ดังนั้น ไม่ใช่ความผิด ของเธอหากเธอไม่เข้าใจ เธอไม่ใช่นักการทูต เธอเป็นเพียงนางสนองพระโอษฐ์ (ครับ อาจารย์) เป็นที่รักของราชวงศ์ ราชินีและเจ้าชาย แต่เธอไม่ใช่นักการทูต เธออาจไม่เคยได้รับ การฝึกฝนให้เป็นนักการทูต แค่เธออาจฝึกฝน ตัวเองเพื่อปกป้องราชินี เพราะเธออยู่ใกล้ ๆ และเอาใจใส่ต่อ ความต้องการของราชินีเสมอ ดังนั้นเธอจึง ต้องรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รอบตัวราชินี และ มันก็กลายเป็นนิสัยไปแล้ว ไม่มากก็น้อย

หรืออาจจะแค่ไม่ละเอียดอ่อน เธอไม่เข้าใจ ความรู้สึกของผู้คน คนส่วนใหญ่ที่มีผิวขาว ไม่มีความรู้สึกอ่อนไหว ต่อสัญชาติหรือภูมิหลัง ดั้งเดิมของพวกเขา (ครับ เข้าใจครับ อาจารย์) มีแต่คนผิวสี ถ้าพวกเขาอยู่ในประเทศของพวกเขา แน่นอน พวกเขาไม่มีปัญหา แต่ถ้าพวกเขาอยู่ในประเทศอื่น และพวกเขาโดดเด่น แบบนั้น พวกเขาก็อาจจะ มีความน้อยเนื้อต่ำใจเล็กน้อย เกี่ยวกับสีของพวกเขาเอง เพราะมีคนคอยเตือนพวกเขา ตลอดเวลาว่า “คุณมาจากไหน” (ครับ อาจารย์ ใช่)

นี่อาจเป็น ความเข้าใจผิด ฉันคิดอย่างนั้น อันที่จริง พระราชวังได้เชิญ มาดามฟูลานีกลับไปที่นั่น - อาจจะเป็นการชดเชยหรือ ขอโทษเพิ่มเติม หรือ อะไรทำนองนั้น ตอนที่พวกเขามีเวลามากกว่านี้ (ครับ) พระราชวังได้เชิญเธอกลับไป หลังจากเหตุการณ์นั้น ดังนั้นหากพวกเขาเหยียดเชื้อชาติ พวกเขาจะไม่สนใจมากนัก พวกเขาแค่ปล่อยให้มันผ่านไปและ พูดว่า “โอ้ อืม... เข้าใจผิด ขอโทษ" แค่นั้น แต่พวกเขาได้เชิญเธอ กลับวัง (ใช่ ถูกต้องครับ อาจารย์)

ใช่ และในงานเลี้ยงฉลองครั้งแรก ของกษัตริย์ เขาได้ เชิญประธานาธิบดีแห่งแอฟริกาใต้ (ครับ อาจารย์) และฉันเห็นคนผิวสี ในงานเลี้ยงนั้นด้วย ตามข่าว ฉันเห็นพวกเขาพูดคุยสังสรรค์ กับคนต่าง ๆ และเจ้าหญิงแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงสนทนากับบุคคล ผิวสีที่อยู่ข้าง ๆ เธอ เธอลืมไปด้วยซ้ำว่า กษัตริย์กำลังพูดอยู่ กษัตริย์กำลังกล่าวสุนทรพจน์ และบทสนทนาของเธอกับคนผิวสี คนนี้น่าสนใจมาก เธอลืมที่จะหยุด (โอ้)

ดังนั้น ฉันไม่คิดว่าพวกเขา เหยียดเชื้อชาติแต่อย่างใดเลย (ครับ อาจารย์ ครับ) ไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจ (ครับ อาจารย์) เนื่องจากนางสนองพระโอษฐ์ผู้นี้ อาจเคยเข้าร่วมงานเลี้ยง มาหลายครั้งตลอดชีวิตของเธอ เพราะตำแหน่งของเธอ ในฐานะนางกำนัลของราชินี ดังนั้นเธอจึงรู้จัก คนมากมายที่มีสีผิวต่างกัน ฐานะต่างกัน สิทธิพิเศษต่างกัน ดังนั้นเธอคงไม่จงใจต้องการ ทำให้แขกคนใดขุ่นเคืองใจ เธอจะทำอย่างนั้นไปเพื่ออะไร? (ใช่ครับ)

ใช่ ตลอดชีวิตของเธอ เธอแค่พยายามปกป้องราชินี พยายามปกป้อง ราชวงศ์และชื่อเสียง ทำไมเธอถึงต้องการทำให้ แขกคนสำคัญขุ่นเคือง? ฉันไม่คิดว่ามันมีเหตุผล แค่นั้น ใช่ (เข้าใจครับ อาจารย์ ครับ อาจารย์) ดังนั้น ฉันหวังว่ามาดามฟูลานี ซึ่งเป็นผู้มีจิตกุศล และเป็นหัวหน้า ขององค์กรการกุศล จะใจบุญพอ ที่จะให้อภัยเหตุการณ์นี้ และผูกมิตรกับ เลดี้ซูซาน ฮัสซีย์ นางสนองพระโอษฐ์ แค่เป็นเพื่อนกัน ไม่จำเป็นต้องทำอะไร ให้เป็นเรื่องใหญ่โต

ยังไงเราก็ไม่มีความสำคัญอะไรอยู่ดี (ครับ) เราจะตายอย่างไม่ใช่ใครที่สำคัญ (ครับ อาจารย์) อาจจะเป็นหลุมฝังศพที่มีคำจารึก วีไอพี แต่แล้วอะไรล่ะ? เราไม่ใช่ใครเลย ไม่มีใครเป็นใครที่สำคัญ แม้แต่กษัตริย์หรือราชินี เราเกิดมาโดยไม่มีอะไร และเราไปโดยไม่มีอะไรเลย และในสายพระเนตรของพระเจ้า เราไม่ใช่ใครเลย ถ้าเราไม่มีคุณธรรมพอ ที่จะทำให้พระองค์พอพระทัย

และมาดามฟูลานีคงจะเป็นที่ โปรดปรานของพระเจ้า เพราะเธอ กำลังทำงานการกุศลเพื่อช่วยเหลือ ลูก ๆ ของพระองค์ที่เดือดร้อน ดังนั้น เธอควรดำเนินตามวิถี แห่งความเมตตาต่อไปและให้อภัย ใครก็ตามที่ทำให้เธอขุ่นเคือง เพราะพระเจ้าจะทรงยกโทษให้เรา หากเราให้อภัยผู้อื่น แม้ว่านั่นจะเป็นการล่วงเกินก็ตาม มันอาจเป็นเพียงอุบัติเหตุ (ครับ อาจารย์) ฉันหวังว่าคุณจะพอใจ กับคำตอบของฉัน (ใช่ เราพอใจครับ) […]

โอเคถ้าอย่างนั้น คุณมีอะไรจะถามฉันอีกไหม? ( ดูเหมือนว่าเมื่อ เร็ว ๆ นี้มีคนพยายาม โจมตีราชวงศ์อังกฤษ อย่างสารคดี ที่เจ้าชายแฮรี่ออกมา และมันน่าจะเป็นข่าวที่น่าตื่นตะลึง และเนื้อหาไม่น่าจะดีนัก ต่อราชวงศ์ )

" Media Report from ABC News (Australia) Dec. 8, 2022 Reporter (m): แฮร์รี่และเมแกนเปิดใจ กับทีมงานเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลง มูลค่าหลายล้านดอลลาร์ "

" Media Report from Sky News Australia Dec. 7, 2022 Peta (f): เลือดเย็น – นั่นคือสิ่งที่คนพูดถึง เจ้าชายแฮร์รี และเมแกน มาร์เคิล ในวันก่อนหน้าสารคดี เน็ตฟลิกซ์ ที่แสวงประโยชน์ของพวกเขา

Russell (m): แน่นอนว่ามันมาใน จังหวะที่ไม่ค่อยดีนัก สำหรับราชวงศ์ เพราะผมคิดว่าทุกคนในประเทศ ซึ่งแท้จริงแล้วก็ คือเครือจักรภพ ต่างสนับสนุนกษัตริย์องค์ใหม่ เป็นส่วนใหญ่เพราะ วิธีที่ท่านปฏิบัติตน รับภาระครอบครัวของเขา ผ่านการสวรรคตของพระมารดาของท่าน ดังนั้นผมจึงคิดว่าสิ่งนี้ จะส่งผลไม่ดีอย่างมาก สำหรับแฮร์รี่และเมแกน "

( แล้วบางคนก็ปา ไข่ใส่กษัตริย์อีก ) พระเจ้า คนปาไข่พวกนี้ไม่รู้ว่า ตัวเองโชคดีแค่ไหนแล้ว ที่ได้อยู่ในประเทศเสรี ประชาธิปไตยแบบนี้ (ใช่ครับ) ในประเทศอื่น ๆ บางครั้งคุณไม่กล้า แม้แต่จะไปเยือน เพราะคุณกังวลว่าอาจมี บางอย่างเกิดขึ้นกับคุณ เพราะคุณไม่รู้ว่าควร ปฏิบัติตนอย่างไรในประเทศ ที่ถูกจำกัดเช่นนี้ (ใช่ครับ)

บอกเลยว่าตอนนี้ฉันไม่กล้า ไปอิหร่านเพราะ ฮิญาบอาจปลิวหลุดไปหรือ ตอนฉันคุย ดื่ม หรือกิน แล้วมันจะหล่นลงมา ฉันอาจไม่ทันสังเกต เพราะมัวแต่คิดเรื่องอื่นอยู่ ในหัวฉัน ผู้คนสามารถเหม่อลอย เช่นนั้นได้เช่นกัน (ครับ อาจารย์) แต่ปกติพวกเขาจะ สวมฮิญาบ พวกเขามีมัน แต่มันแค่ร่วงหล่น และพวกเขาก็ลืม พวกเขาไม่ได้คิด พวกเขามีสิ่งอื่น อยู่ในใจ (ใช่ครับ) หรืออาจจะในตอนนั้น วันนั้นพวกเขาเหนื่อย ทำงานหนักเกินไป และเครียดเกินไป พวกเขาจึงไม่สามารถ นึกถึงฮิญาบได้มากขนาดนั้น และด้วยเหตุผลนั้น เด็กสาวผู้น่าสงสารคนนั้น จึงต้องชดใช้ด้วยชีวิตของเธอ (ครับ อาจารย์)

หลายประเทศ ที่ฉันไม่กล้าไป จริง ๆ นะ มันเป็นเช่นนั้น ฉันไม่เสี่ยง เพราะฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำตัว ตามที่พวกเขาต้องการหรือเปล่า แต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน (ครับ อาจารย์) คุณไม่สามารถจะรู้ กฎหมายทั้งหมดของประเทศนั้น หรือมารยาทหรือขนบธรรมเนียม ทั้งหมดของประเทศนี้ จากนั้นคุณอาจทำผิด และ พวกเขาอาจจำคุกคุณ ทุบตีคุณ หรือฆ่าคุณก็ได้ ใครจะรู้ (ครับ อาจารย์)

นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันบอกคุณใน การพูดคุยครั้งหนึ่งของเรา ว่าฉันคิดถึงรัสเซีย ฉันคิดถึงจริง ๆ เมื่อหลายวันก่อน ฉันยังคิดถึงรัสเซีย เพราะเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ ที่ไม่ยอมใครง่าย ๆ และพวกเขาเพิ่งเปิด เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง จากนั้นฉันก็ได้รับอนุญาต ให้ไปที่นั่นและพูดคุย เกี่ยวกับการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ ฉันมาจากไหนไม่รู้ ฉันไม่ได้เป็น "กูรู" "สัตกูรูจากอินเดีย" หรืออะไรทั้งนั้น ฉันเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ชาวเวียดนาม (ชาวเอาหลัก) (ครับ อาจารย์)

แล้วพวกเขาแค่ให้ฉันเข้าไป และพวกเขาก็ดูแลฉันด้วย บอกฉันว่า “ขึ้นรถบัส ที่หน้าโรงแรมเลย คุณไม่ต้องจ่ายค่าแท็กซี่ มากเกินไป” หญิงชราคนหนึ่งบอกฉัน ว่า จากนั้นฉันก็ไปที่ร้านของพวกเขา และทั้งหมดนั่น พวกเขา น่ารักมาก ๆ เป็นกันเองมาก ช่วยเหลือดีมาก พวกเขาไม่ได้พยายาม ขายของแพง ๆ ให้ฉัน เพื่อให้ได้เงิน ไม่ ไม่ ในทางตรงกันข้าม พวกเขาแนะนำให้ฉัน ใช้สิ่งนี้และสิ่งนั้น มันถูกกว่า แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าฉัน เป็นคนต่างชาติ และถ้าฉัน สามารถไปเที่ยวประเทศของ พวกเขาได้ และพวกเขาคิดว่า ฉันน่าจะเป็นนักท่องเที่ยว ฉันต้องมีเงินแน่ ๆ แต่พวกเขาไม่ได้ พยายามหาเงินจากฉัน ผู้คนใจดีและซื่อสัตย์มาก และฉันคิดถึงรัสเซียจริง ๆ (ครับ อาจารย์)

ฉันคิดถึงจริง ๆ ฉันมีความประทับใจที่ดีมากมาย เพราะเหตุนั้น เพราะฉันได้รับอนุญาต ให้ไปประเทศนั้นเพื่อพูดคุย เกี่ยวกับการบำเพ็ญทางจิตวิญญาณ และในสมัยโบราณ คอมมิวนิสต์ พวกเขาไม่เชื่อเรื่องจิตวิญญาณ พวกเขาบอกว่า พวกเขาเป็นคอมมิวนิสต์ พวกเขาส่วนใหญ่บอกว่า ไม่เชื่อในพระเจ้า หรือสวรรค์ แต่ฉันก็ไม่ใช่ใครสำคัญ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ได้รับอนุญาต ให้ไปยังประเทศของพวกเขา และพูดคุยในเมืองหลวงของพวกเขา (ครับ อาจารย์) ไม่ใช่แค่หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไม่ใช่ อยู่ใจกลางกรุงมอสโก (ครับ อาจารย์) ฉันรู้สึกประทับใจมาก และผู้คนก็ใจดีมาก เป็นมิตรและช่วยเหลือดีมาก

และเมื่อหลายวันก่อน ฉัน คิดถึงเรื่องนั้นและ รู้สึกเศร้ามาก เศร้ามาก เพราะตอนนี้ฉันเห็นยูเครน (ยูเรน) โจมตีในรัสเซีย และฉันรู้สึก กังวลมากสำหรับผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ที่บริสุทธิ์ ในสงครามที่อยู่ในรัสเซีย หลายคนไม่ต้องการมัน พวกเขาออกไปประท้วง แม้แต่บางคนยังทนไม่ได้ ที่จะประท้วงอย่างเปิดเผย ผู้หญิงก็โกนผม และโชว์มัน ในแบบของพวกเขา เพราะพวกเขากังวลว่า พวกเขาจะติดคุก ถูกฆ่า หรือถูกฆาตกรรม และอื่น ๆ (ครับ อาจารย์) โอ้พระเจ้า คนเหล่านี้ พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์

" Media Report from UATV English Dec. 3, 2022 Reporter (m): ผู้คนเริ่มออกมาต่อต้าน สงครามและรัฐบาล ของพวกเขาบ่อยขึ้น ปูตินคือปัญหาหลักของรัสเซีย คุณเชื่อใจปูตินหรือไม่?

Russian citizen (m): ไม่อย่างแน่นอน มันยากที่จะพูด มันถูกเซ็นเซอร์ (มัน) ยุ่งเหยิงและพังไปหมด

Russian citizen (f): ตอนนี้ปัญหาหลักคือ รัสเซียสร้างความก้าวร้าว ในดินแดนของประเทศอื่น

Russian citizen (m2): เขาทำให้เราอยู่ในตำแหน่งที่ ต่อสู้กับคำวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้

Russian citizen (f2): ฉันเข้าใจว่าจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีอนาคตที่ดีและ เจริญรุ่งเรืองสำหรับรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการระดมพล ในอนาคตอันใกล้นี้ มันจะยากมาก ทั้งเรื่องงานและเรื่องเรียน โดยหลักการ ทุกเรื่อง "

ชาวรัสเซียหรือชาวยูเครน (ชาวยูเรน) พวกเขาล้วนตกเป็นเหยื่อของผู้นำ ที่บ้าคลั่งและป่าเถื่อนเหล่านี้ พวกเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับมัน พวกเขาไม่ต้องการให้เกิดสงครามใด ๆ แม้ว่ายูเครน (ยูเรน) ไม่ยอมรับว่าพวกเขาโจมตี ในรัสเซีย แต่ถ้าพวกเขาทำ ฉันก็ไม่แปลกใจเลย ฉันแค่เป็นห่วง ชาวรัสเซีย ถ้าสงครามใหญ่ขึ้น คนตายเยอะขึ้น หลายคนเสียชีวิตแล้ว ในยูเครน (ยูเรน)

" Media Report from DW News Dec. 7, 2022 Elfers (m): สนามบินในภูมิภาคเคิร์สต์ และฐานทัพอากาศอีกสองแห่ง ในรัสเซียถูกโจมตี เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ยูเครนไม่ได้อ้าง ความรับผิดชอบ แน่นอนว่าการรุกรานยูเครน ของรัสเซียได้ก่อให้เกิด การสูญเสียชีวิตอย่างมากมาย แต่ทั้งสองฝ่ายต่างปกปิด เป็นความลับเกี่ยวกับจำนวน ทหารของพวกเขาที่เสียชีวิต การบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน ไม่สามารถ ระบุได้อย่างแน่นอน

Reporter (m): เก้าเดือนแห่งการต่อสู้ การโจมตีทางอากาศ การสู้รบด้วย ปืนใหญ่ และการสู้รบระยะประชิด ในเมืองตลอดแนวรบยาว 900 กม. คร่าชีวิตผู้คนนับพัน แต่ไม่รู้ กี่พัน รัสเซียระบุในเดือนกันยายน ว่าสูญเสียทหาร ไปไม่ถึง 6,000 นาย แต่กองทัพสหรัฐกล่าวว่าสูญเสีย ไปประมาณ 100,000 นายในสนามรบ เมื่อเร็ว ๆ นี้ยูเครน กล่าวว่ามีทหารประมาณ 13,000 นายเสียชีวิตในสงคราม แต่สหรัฐกล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตก็มากกว่า 100,000 คนเช่นกัน สหรัฐฯ ใช้วิธีการต่าง ๆ มากมาย ในการหาตัวเลขดังกล่าว รวมถึงภาพจากดาวเทียม ตลอดจนภาพถ่าย สนามรบบนโซเชียลมีเดีย ยอดพลเรือนเสียชีวิต – อีกหนึ่งคำถามสำคัญ สถิติล่าสุดของ สหประชาชาติ – พลเรือนเสียชีวิต 7,000 คน แต่แนวหน้านั้นอันตราย เกินกว่าที่ผู้สังเกตการณ์ จะประเมินได้ พื้นที่ยึดครองของรัสเซียหลายแห่ง เช่น เมืองมาริอูโปล ซึ่งหลุมฝังศพจำนวนมากถูก ถ่ายภาพด้วยดาวเทียม อาจะรองรับได้อีกหลายหมื่นร่าง และรัสเซียไม่อนุญาต ให้นานาชาติเข้ามาตรวจสอบ ในพื้นที่ดังกล่าว โดยทั่วไป รัสเซียไม่ได้แสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับจำนวนพลเรือน ที่เสียชีวิตในยูเครน "

ผู้คนที่งดงาม อ่อนเยาว์ หล่อเหลาเหล่านั้น โน้มน้าวใจได้ง่าย ทำให้หลงได้ง่าย แล้วไปตายซะอย่างนั้น พวกเขามีครอบครัวของพวกเขา พวกเขามีพ่อแม่รอพวกเขาอยู่ และอธิษฐานเผื่อพวกเขา แม้แต่ทหารที่อายุมากกว่า หรือนายพลและนายพัน พวกเขามีอายุมากกว่าแต่พวกเขาก็มี ครอบครัวเหมือนกัน พวกเขามีลูกของพวกเขา พวกเขามี ภรรยารออยู่ พวกเขามีหลานและ ทั้งหมดนั้น เพื่อเพลิดเพลินกับวัยชรา พวกเขาไม่ควรตายแบบนั้น อย่างนั้น ตายไปอย่างนั้น ชั่ววินาทีเดียว ชีวิตของพวกเขาก็หายไป ครอบครัวของพวกเขาถูกทิ้งไว้ พวกเขาจะร้องไห้มาก แต่ไม่สามารถกลับไปหาพวกเขาได้

ลองนึกภาพว่าถ้าเป็นคุณ ถ้าคุณสูญเสียคนที่ คุณรักไปแบบนั้น นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึก - ราวกับว่าฉันสูญเสียคนที่ฉันรัก ตอนนี้คุณเข้าใจไหม? (เข้าใจ ใช่ เข้าใจครับ) นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันร้องไห้ตลอดเวลา เพราะฉันรู้สึกในสิ่งที่พวกเขารู้สึก (ครับ อาจารย์) ฉันแค่จินตนาการว่าถ้าเป็นฉัน และเป็นความรู้สึกเดียวกัน (ครับ อาจารย์)

ฉันเกลียดการแทรกแซงและ แทรกแซงในสงครามและทั้งหมดนั้น เพราะฉันก็ลากตัวเอง เข้าไปอยู่ในอันตรายเช่นกัน เรื่องการเมือง เรื่องสงคราม คุณเสี่ยงชีวิต แม้ว่าคุณจะไม่ได้ อยู่ในสนามรบก็ตาม (เข้าใจครับ อาจารย์) ฉันเสี่ยงชีวิต เพราะฉันทนไม่ได้ ฉันต้องพูดออกไปเผื่อว่าคำพูด ของฉันมีความหมายอะไร หรือช่วยใคร หรืออย่างน้อยก็ ปลอบโยนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของสงคราม (ครับ อาจารย์ ครับ) แต่ในล้านปี ฉันไม่อยากลากตัวเอง เข้าไปในเขตอันตราย เช่น สงครามและการเมือง คุณเข้าใจใช่ไหม? (เราเข้าใจครับ อาจารย์ ครับ อาจารย์) (ครับ อาจารย์) […]

แล้วพวกที่ปาไข่ ใส่กษัตริย์อีก พวกเขาก็ไม่ควรทำ ฉันเดาว่าพวกเขาเพิ่งเป็นนักเคลื่อนไหว หรือได้รับอิทธิพล จากนักเคลื่อนไหวต่อต้านราชวงศ์ อะไรทำนองนั้น (ใช่ครับ) แต่พวกเขาควรมีความสุขที่ได้ เป็นคนอังกฤษ อยู่ในอังกฤษ อย่างน้อยก็จะไม่มีใครถาม พวกเขาว่า “คุณมาจากไหน” และทำให้คุณขุ่นเคือง หรือทำให้คุณรู้สึก แปลกแตกต่างจากคนรอบข้าง (ครับ อาจารย์)

พระเจ้า พวกเขาควรขอบคุณที่โชคดี ที่ได้เกิดมาใน เผ่าพันธุ์ที่สง่างามเช่นนี้ ในประเทศเสรี ประเทศประชาธิปไตย และพวกเขามีเกือบ ทุกอย่างที่ต้องการ หากพวกเขาทำงานหนัก และรัฐบาลก็ให้ สวัสดิการประกันสังคม ไม่ใช่ปล่อยให้พวกเขา อดตายข้างถนน มันมีเส้นความยากจน - ถ้าพวกเขาต้องการ รัฐบาลจะ ให้เงินอุดหนุนแก่พวกเขา […] และถ้าคุณทำงานหนักไม่พอ มีงานไม่พอ หรือ ถ้าคุณเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือไม่มีเงินเพียงพอ ในธนาคาร พวกเขายังให้เงินคุณ ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน มันแล้วแต่ (ครับ อาจารย์) […]

" Excerpt from the documentary ‘Benefits Britaln’ Narrator (f): นี่คือ เฮเธอร์ ฟรอสต์ วัย 37 ปี คุณแม่ที่ได้รับผลประโยชน์ ประมาณ 900 ปอนด์ต่อสัปดาห์ สำหรับเธอและลูก ๆ ของเธอ ครอบครัวกลอสเตอร์เชอร์ ขนาดใหญ่นี้ได้รับผลประโยชน์ สามเท่าของรายได้ของครอบครัว ในสหราชอาณาจักรทั่วไป

Heather (f): ระบบผลประโยชน์ถูกจัดขึ้น เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ ไม่สามารถออกไปทำงานได้

Narrator (f): ในเบเนฟิตส์บริเตนวันนี้ ผลประโยชน์มีการอ้างสิทธิ์โดย ประมาณสองในสามของครอบครัวทั้งหมด แต่มีเพียงไม่กี่ครอบครัวที่มี ขนาดใหญ่เท่ากับครอบครัวชอร์ส มีเด็กทั้งหมด 14 คน และนั่นคือทอม ชอร์สที่อายุ 39 ปี และเด็กห้าคนเพิ่งเกิด ตั้งแต่ทอมเลิกทำงาน เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้สวัสดิการจ่ายบิล ดังนั้นทอม สเตซี่และเด็ก ๆ เรียกร้องการสนับสนุนด้านรายได้ เครดิตภาษีบุตร และสวัสดิการบุตร เด็กสองคนลงทะเบียน เป็นผู้พิการ

Tom (m): นี่คือยาของคีนัน

Narrator (f): และนั่นหมายความว่ายังมีค่าเบี้ยเลี้ยง สำหรับผู้ดูแลและผู้พิการอีกด้วย รวมทั้งหมดแล้วเราคิดว่า ประมาณ 70,000 ปอนด์ต่อปี เพื่อให้ครอบครัวดำเนินต่อไปได้ และส่วนหนึ่งของข้อตกลงคือ เบาะแบบวิคตอเรียแปดเตียงที่ จ่ายโดยสวัสดิการที่อยู่อาศัย

Tom (m): จะมีคนพูด เสมอว่า “เราไม่ได้อะไรเลย จากรัฐบาล” มีเงินเพียงพอในการดำรงชีวิต ถ้าคุณมีทัศนคติที่ถูกต้อง "

ฉันหมายถึง แน่นอน พวกเขาจะซื้อไม่วังหรือ ให้คุณอยู่ในวัง แต่พวกเขาให้คุณอยู่ คุณอยู่รอดอย่างน้อย (ครับ อาจารย์) พวกเขาช่วยให้คุณผ่านพ้น ช่วงเวลาที่ยากลำบาก จนคุณสามารถลุกขึ้นยืนได้อีกครั้ง เช่นเดียวกับที่ลูกน้อยของคุณ เติบโตได้ดีขึ้น และจากนั้นคุณ สามารถมีเวลาไปทำงานได้มากขึ้น (ครับ อาจารย์)

แน่นอนว่า ในอังกฤษคุณมีสิทธิ์ แสดงความคิดเห็นของคุณ แต่คุณสามารถเขียนลง หนังสือพิมพ์หรือ สัมภาษณ์ หรืออะไรก็ได้ หรือเขียนถึงพระราชวังก็ได้ ฉันไม่รู้ว่า กษัตริย์จะทรงมีเวลาพอ ที่จะอ่านอะไรไหม

แต่กษัตริย์เป็นเพียงกษัตริย์ เขาสืบทอดบัลลังก์ไม่ว่า เขาจะชอบหรือไม่ก็ตาม (ครับ อาจารย์) แล้วจะไปต่อต้านเขาทำไม? ฉันไม่รู้ แม้จะเพราะความยากจน และทั้งหมดนั้น มันไม่ใช่ความผิด ของเขา เขาทำอะไรไม่ได้มาก แม้ว่าเขาจะให้ ทรัพย์สินทั้งหมดที่เขามี แต่ก็ยังไม่สามารถ แก้ปัญหาได้ 100% (ครับ อาจารย์) และถ้าผู้คนยังอายุน้อย และสุขภาพแข็งแรง พวกเขาสามารถหางานทำ เพื่อหาเงินได้ […]

ดังนั้น กษัตริย์เพิ่งเสด็จขึ้น ครองราชสมบัติ ปล่อยพระองค์ไป ช่วยปกครอง ทำในสิ่งที่พระองค์สามารถทำได้ เพราะกษัตริย์ไม่ใช่คนที่ จะทำทุกอย่าง ในประเทศ พระองค์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ระบบศาลยุติธรรม หรือปกป้องคุณหรือทำให้คุณร่ำรวยได้ และอะไรทำนองนั้น นั่นคืองานของรัฐบาล ของนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลของพระองค์ กษัตริย์เป็นทูตที่สูงที่สุด และยิ่งใหญ่ที่สุด ไม่มากก็น้อย นักการทูตที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศ นักการทูตที่มีชื่อเสียงที่สุด ของประเทศ (ครับ อาจารย์)

พวกเขาทำงานหนักมาก ลองนึกภาพ พวกเขาต้องตื่นแต่เช้า ต้องแต่งหน้า หาถุงเท้า หาเนคไท และบางคนต้องช่วยพวกเขา และบางทีพวกเขา อาจไม่พบสิ่งที่ชอบจริง ๆ และทั้งหมดนั้น และพวกเขายังต้องออก ไปยิ้มให้สื่อมวลชน และจับมือกับผู้คน ในประเทศอื่น แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบก็ตาม ดังนั้นพวกเขาจึงติด โควิด-19 ในช่วงแรก (ครับ อาจารย์) พระราชินีก็ติดโควิดเช่นกัน กษัตริย์ชาร์ลส์ก็ติดโควิด และ เจ้าชายวิลเลี่ยมก็เช่นกัน ฯลฯ

พวกเขาทำงานหนักมากอย่างแท้จริง และราชินียังจ่ายภาษีด้วย ฉันไม่รู้ว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ เสียภาษีอีกไหม แต่เมื่อหลายปีก่อน ราชินีบอกรัฐบาล ว่าพระองค์ควรจ่ายภาษีด้วย และพวกเขาทำงานหนักมาก หนักมาก ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำงานได้ ฉันเองก็ไม่อยากทำงาน ของพวกเขา ฉันไม่คิดว่าฉันจะมีความสุขที่ได้เป็น เจ้าหญิงแคทเธอรีนแห่งเวลส์ หรือแม้แต่พระเจ้าชาลส์ หรือพระชายา - อะไรก็ตาม แล้วแต่คุณจะเรียก (ครับ อาจารย์) […]

จะเป็นเจ้าหญิงหรือเจ้าชาย หรือกษัตริย์ โอ้ มันเป็นงานที่ต้องทำมากมาย งานเอกสารมากมายที่ต้องดูแล มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่อาจทำให้คุณไม่พอใจ และคุณต้องทำ คุณต้องยิ้มเข้าไว้ แม้ว่าคุณจะมีอารมณ์ ฉุนเฉียวเล็กน้อย แต่คนทั้งโลกก็รู้เรื่องนี้ (ใช่ครับ) เพราะโทรทัศน์จะออกอากาศ สื่อจะพิมพ์ออกมา และจากนั้นพวกเขา ก็ถาโถมใส่คุณเรื่องนั้น (ครับ อาจารย์) ไม่สำคัญว่า วันนั้นคุณจะเหนื่อยไหม และวันนั้นคุณ ทำดีและอดทนมาพอแล้ว

นี่เป็นปัญหา เมื่อคุณร่ำรวยและมีชื่อเสียง คุณต้องมีคนจำนวนมาก ทำงานให้คุณ และไม่ใช่ทุกคน ที่เข้ากันได้กับคุณ แม้แต่ เห็นไหม พ่อแม่ของคุณ เข้ากับคุณไม่ได้เสมอ ลูก ๆ ของคุณ เข้ากับคุณ ภรรยา คนรัก หรือเพื่อน ๆ ของคุณไม่ได้ คุณมีปัญหาในบางครั้ง (ใช่ครับ อาจารย์) และพนักงาน ทีมงานที่ทำงานในราชวงศ์ แน่นอนว่าพยายาม อย่างดีที่สุดเพื่อทำให้ พระราชินีและกษัตริย์พอใจ แต่พวกเขามักไม่รู้ ว่าจะทำอะไรดีที่สุดเสมอไป

พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่แต่นั่น ไม่ได้หมายความว่ากษัตริย์ดีที่สุด (ครับ อาจารย์) และพวกเขายังประหม่า เพราะพวกเขาเป็นกษัตริย์ เป็นราชินี (ใช่ครับ) และพวกเขารู้สึกว่าพวกเขาเป็น เพียงคนรับใช้หรือผู้รับใช้ย่อย ด้วยกันเองด้วยซ้ำ (ใช่ครับ) พวกเขารู้สึกอย่างนั้น และมันก็แค่งาน แต่เป็นงานที่สูงที่สุดในโลก ให้บริการผู้คนที่สูงที่สุด ในประเทศและสูงที่สุด แห่งหนึ่งในโลกด้วยซ้ำ ดังนั้นพวกเขาจึงประหม่าเช่นกัน พวกเขาคิดไม่ออก พวกเขาทำได้ไม่ดี

และเมื่อคุณอยู่ภายใต้ ข้อจำกัดของเวลา และผู้ช่วยของคุณ ผู้ช่วยของคุณ คนในบ้านของคุณ ไม่ช่วยคุณอย่างถูกต้อง ไม่เลือกชุดที่เหมาะสม และทำเงอะงะแบบนั้น แน่นอนว่าคุณอารมณ์เสีย (ครับ อาจารย์) วันแรกของการเป็นกษัตริย์ และเขาต้องลงนามในเอกสารสำคัญ บางฉบับ และพวกเขาก็วาง ปากกาที่รั่วไว้ที่นั่น แล้วเมื่อเขาหยิบมันขึ้นมา มันก็เปื้อนมือของเขา แทนที่จะใช้มันเขียน เป็นต้น (ครับ) และเขาเพิ่งสูญเสียแม่ไป และเขาก็ประหม่า มันเป็นงานใหม่ และคงจะไม่ได้นอนมาหลายวัน แล้วมายืนอยู่ต่อหน้า สมเด็จพระบรมราชินีนาถ ผู้ล่วงลับไปแล้ว ก็เหนื่อยมาก ไม่มีความอดทนแล้ว ความอดทนถูกยืดจนตึงแล้ว ยืดจนถึงขีดสุดแล้ว บางทีเขากินไม่อิ่ม นอนหลับไม่สนิท และเหนื่อย เขายังเป็นชายชรา เขาอายุ 70 ​​ปีแล้ว (ครับ อาจารย์ ถูกต้องครับ อาจารย์) และเขายังเป็นมนุษย์อีกด้วย

แต่เป็นเรื่องยากมากที่จะได้รับการอภัย หากคุณเป็นบุคคลในราชวงศ์ และกษัตริย์ กษัตริย์ อย่างน้อยที่สุด พวกเขาคาดหวังให้เป็น อย่างที่พวกเขาต้องการ ไม่เหมือนมนุษย์ มีความอ่อนแอ ทำผิดและ มีความเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ อะไรประมาณนั้น (ครับ อาจารย์) แล้วฉันก็เห็นกษัตริย์ด้วย ฉันไม่รู้ว่าท่านสบายดีหรือเปล่า แต่บางครั้งใบหน้าของเขา ดูแดงมากและบางครั้งมือของเขา ก็ดูบวมและแดง ฉันเป็นห่วง เขาอาจจะไม่สบายเหมือนกัน และความเครียดที่เกิดขึ้นกับคน ๆ เดียว ทุกคนมองมาที่เขา คาดหวังว่าเขาจะเป็นแบบนี้ จะทำแบบนั้น แต่เขาเป็นมนุษย์ และเขาเป็นคน ๆ เดียวเท่านั้น - กษัตริย์องค์เดียวเท่านั้น (เข้าใจครับ อาจารย์)

ดังนั้นผู้คนควรมี ทัศนคติที่สนับสนุนและ เห็นอกเห็นใจมากกว่านี้ เราสามารถพูดได้ว่าอดทนมากขึ้น ให้อภัยมากขึ้น เข้าใจมากขึ้นสำหรับผู้ชาย ที่พยายามอย่างดีที่สุด เขาไม่ใช่ทรราชและ ไม่ใช่กษัตริย์ที่เลวร้าย เขาไม่ได้เลวร้ายอะไร เขาโอเค เขาดีเท่าที่ดีได้แล้ว ดังนั้นผู้คนควรสนับสนุนเขา ปล่อยให้เขาอยู่ไป ให้เขามีเวลามีพื้นที่ ทำหน้าที่ของเขาให้ดีที่สุด

ฉันบอกคุณไปแล้วว่า พวกเขาอยากให้ปูติน เป็นกษัตริย์หรือไม่? และในรัสเซีย ถ้าคุณขว้างไข่แบบนั้น ฉันไม่รู้ว่าคุณจะไปอยู่ ที่ไหนหลังจากนั้น – ถ้าคุณปาไข่ใส่ปูติน และฉันไม่รู้ ว่าหัวของคุณจะไปทางไหน ร่างกายของคุณจะไปทางไหน (ใช่ จริงครับ)

ดังนั้นผู้คนควรคำนึงถึง โลกของเราให้มากขึ้น เรามีปัญหามากมายอยู่แล้ว โรคระบาดและความปลอดภัย ตลอดจนภาวะเงินเฟ้อ และการขาดแคลนอาหาร และอีกมากมาย ทุกคนควรมีประสิทธิผลมากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น และมีทัศนคติที่ช่วยเหลือกันมากขึ้น เพื่อยกระดับโลกของเรา ยกระดับ จิตวิญญาณของผู้คนและตัวคุณเอง (ใช่ครับ อาจารย์) ไม่ทำให้คนอื่นเสื่อมเสีย ไม่ลดค่าคนอื่น โดยเฉพาะกษัตริย์องค์ใหม่ และลูกกำพร้าที่เพิ่ง สูญเสียพ่อแม่ไปหลังจาก อยู่กับเขามาตลอดหลายปีนี้ (ครับ อาจารย์ ครับ)

ฉันไม่รู้ว่ามีกษัตริย์ หรือใครที่ดีกว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ ในการจัดการงานของเขา… (ครับ) พบเห็นผู้คนมากมายบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ นักการทูต ต่างประเทศ และประธานาธิบดี ต่างประเทศ คุณต้องทำตัวดี ยิ้มเข้าไว้ แม้ว่าคุณจะรู้สึกไม่ดี ไม่รู้สึกแข็งแรงในวันนั้น สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปด้วยดีเสมอไป แม้แต่สำหรับกษัตริย์ หรือสำหรับ ใครก็ตาม ทุกวันเราอาจมีวันที่แย่ได้ เช่นกัน (ครับ อาจารย์)

นั่นคือทั้งหมดที่ฉันพูดได้ แต่ฉันเป็นใคร ที่จะบอกคนอังกฤษ ว่าจะทำอย่างไร? ฉันแค่หวังว่าพวกเขาจะพิจารณา ว่ากษัตริย์ไม่สามารถ ทำทุกอย่างตามที่ทุกคนต้องการได้ เพราะทุกคน มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ความคาดหวังที่แตกต่างกัน และมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน (ครับ อาจารย์) แค่อย่าไปยุ่งกับราชวงศ์ ให้พวกเขาเป็นตัวแทน ทางการทูต เพราะพวกเขาเป็น นักการทูตที่ดีที่สุด สำหรับประเทศของคุณอยู่แล้ว เช่นเดียวกับเมื่อประธานาธิบดี หรือกษัตริย์หรือราชินี ของประเทศอื่นมา พวกเขาต้องการจับมือ กับกษัตริย์ของคุณ เจ้าหญิงของคุณ ราชินีของคุณ หรืออยากจะมาจับมือ กับฉันหรือคุณ? บอกฉันมา? (ไม่ครับ) พวกเขาอาจจะอยากมา จับมือกับคุณ (ไม่ครับ อาจารย์ ผมไม่คิดอย่างนั้น)

แต่คุณเข้าใจสิ่งที่ฉันพูดไหม? พวกเขากำลังทำงานหนัก เกือบจะเป็นงานที่ไม่มีใครเห็นคุณค่า (ใช่ครับ) นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้สึก ฉันรู้สึกว่าพวกเขาทำงานหนักมากจริง ๆ นานมาแล้ว เมื่อหลายปีก่อน ฉันได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุม ของกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลที่ช่วย อนุรักษ์สัตว์ป่า มีเมตตาต่อพวกเขา และปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดี และช่วยเหลือพวกเขา เมื่อพวกเขาต้องการ เพราะฉันบริจาค ให้องค์กรนั้น เขาเลยเชิญฉัน และฉันก็พาทีมงาน โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ ไปกับฉันด้วย แล้วเราก็ไปที่นั่น

แล้วเจ้าหญิงแอนน์ก็อยู่ที่นั่น อวยพรท่าน ฉันไม่รู้อะไรมากนัก ฉันไปที่นั่นแล้ว เห็นเจ้าหญิงแอนน์ แล้วฉันก็เข้าไปหาท่าน พนมมือไหว้ เหมือนเป็นการทักทาย แล้วฉันก้มศีรษะลง ฉันพูดว่า “ฝ่าบาท ดิฉันเพียงอยากขอบคุณพระองค์ และสมาชิกราชวงศ์ทุกพระองค์ สำหรับการเสียสละ และการทำงานหนักตลอด หลายทศวรรษที่ผ่านมา” และท่านบอกฉันว่า “ดูแลกระเป๋าเงินของท่าน ให้ระวัง" เพราะฉันโยน กระเป๋าลงพื้น ฉันมีกระเป๋าเงินใบเล็กอยู่ในมือ ฉันก็โยนมันลง เพื่อจะพนมมือ ไว้ตรงอก เพื่อแสดงความเคารพ (โอ้) ดังนั้นฉันจึงโยนมันลงบนพื้น ตรงมุมพื้น และท่านกังวลเกี่ยวกับกระเป๋าเงิน ของฉันมากกว่าฉัน และมากกว่าการชื่นชมยินดี และคำชมเชยของฉัน

ฉันรู้สึกขอบคุณจากใจจริง ๆ ฉันรู้ว่าพวกท่านทำงานหนักมาก (ครับ อาจารย์) บางครั้งก็ยากเกินไป จนการแต่งงานของพวกเขา มีปัญหาและ ทำให้หัวใจแตกสลาย พวกเขาเป็นเพียงมนุษย์ เช่นเดียวกับทุกคน พวกเขามีหัวใจ มีความรู้สึก มีอารมณ์ มีความหลงใหล และทั้งหมดนั้นเช่นกัน (ครับ อาจารย์) ฉันรู้ว่าพวกเขาทำงานหนักมาก […]

ดังนั้นผู้คนไม่ควร โจมตีราชวงศ์อีกต่อไป (ครับ อาจารย์) ฉันว่าไม่ควร ทำแบบนั้น พวกเขายังเป็นมนุษย์ พวกเขากำลังทำอย่างดีที่สุด (ถูกต้องครับ) และคนขว้างไข่เหล่านี้ ถ้าพวกเขาได้เป็นกษัตริย์ ฉันก็ไม่รู้ว่าพวกเขา จะทำได้ดีไปกว่า กษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 แห่งอังกฤษ องค์ปัจจุบันหรือไม่ (ใช่ จริงครับ ใช่ ครับ อาจารย์)

ปล่อยให้มันเป็นไปและเมื่อเวลาผ่านไป อะไร ๆ ก็ดีขึ้นเสมอ ถ้าไม่เป็นเช่นนั้น ก็เป็นกรรมร่วมกันของเราทั้งโลก และของประเทศโดยรวม คุณจะโทษคนคนเดียว หรือสองคนไม่ได้ ถ้าคุณแก้ไขอะไรได้ ก็แก้ไขไป ถ้าคุณทำไม่ได้ก็ปล่อยให้มันเป็นไป อธิษฐานขอให้มันดีขึ้น อธิษฐานขอให้มันปรับปรุงดีขึ้น แค่นั้นที่ฉันสามารถพูด กับชาวอังกฤษได้ อย่าทำให้ชีวิตของเรายากขึ้น กว่าที่เป็นอยู่ในปีเหล่านี้ เมื่อเราอยู่ในสภาพ ที่แย่มากอยู่แล้ว ด้วยภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นแบเรา จนเราไม่สามารถควบคุมได้

และเกี่ยวกับสารคดีและ หนังสือของเจ้าชายแฮร์รี่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ ระหว่างพระองค์กับราชวงศ์ ฉันยังไม่ได้ค้นคว้า เกี่ยวกับเรื่องนั้นมากนัก เดิมทีฉันคิดว่าพวกเขา เข้ากันได้ดีมาก แบ่งปันความรับผิดชอบทั้งหมด ของพระราชกรณียกิจ และเพราะพวกเขาดูเหมือนจะปฏิบัติ ต่อเมแกน มาร์เคิล ภรรยาของเขา เป็นอย่างดี พวกเขายอมรับเธอ และกษัตริย์ชาร์ลส์ ยังตรัสว่าเธอมีเสน่ห์และ น่ารื่นรมย์อย่างยิ่ง อะไรแบบนั้น (ครับ อาจารย์)

และพวกเขายัง ปล่อยให้พวกเขาแต่งงานกัน ให้เจ้าชายแฮร์รี่แต่งงาน กับเมแกน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เดทกัน นานเท่าที่พวกเขา จะอยากให้ทั้งสองคนเดท (ครับอาจารย์ ใช่ครับ) ดังนั้นฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าปัญหาคืออะไร หากมีปัญหาอะไรก็ควรเป็น เพียงแค่ภายในครอบครัว และพวกเขาควรจะจัดการ กับมันแทนที่จะทำเรื่อง ใหญ่โตแล้วเอาเรื่องในครอบครัว ไปเผยแพร่ให้โลกรู้ - ถ้ามันเป็นเรื่องไม่ดีในครอบครัว ตามที่พูดกัน (ครับ)

" Media Report from ABC News (Australia) Dec. 9, 2022 Nick Bullen (m): มันอาจเป็นรายการทีวีที่ ทำสะใจมากที่สุด ที่ผมเคยเห็นมาสักระยะหนึ่ง ผมหมายความว่ามันเป็นรายการ เรียลลิตี้ไม่ใช่สารคดี "

" Media Report from The Telegraph Dec. 9, 2022 Camilla Tominey (f): ฉันหมายความว่ามีความขัดแย้ง ที่นี่เพราะคุณมีคู่รักที่ ปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเขา อย่างดุเดือดแบ่งปัน ภาพที่ใกล้ชิดอย่างยิ่งของ ช่วงสำคัญในชีวิตของพวกเขา แฮร์รี่และเมแกนยอมรับว่า พวกเขาเคยอยู่ด้วยกันแค่ สองครั้งก่อนจะไปพักผ่อน ในเต็นท์ด้วยกันเป็นเวลา ห้าวันในวันหยุดนี้ "

" Media Report from The Sun Dec.8, 2022 Interviewee1 (f): ตอนที่พวกเขาแต่งงานกัน ฉันตื่นเต้นมาก ฉันรู้สึกเหมือนเป็นยุคใหม่ และตอนนี้ฉันรู้สึกอายมาก และฉันแค่หวังว่าพี่น้องสองคนนั้น จะกลับมาเป็นเพื่อนกันอีกครั้ง ฉันหมายความว่ามันเป็นเรื่อง เกี่ยวกับครอบครัวใช่ไหม?

Reporter (m): คุณพบว่าพวกเขาประจบประแจง สมควรที่คุณจะไม่ดูเหรอ?

Interviewee1 (f): ไม่ ฉันแค่ดูรูป ก็รู้สึกอายแล้ว ฉันแค่… ทุกอย่างให้ความรู้สึกค่อนข้างจัดฉาก และฉันแน่ใจว่ามี หลายอย่างที่ผิดพลาดไป แต่มีในทุกครอบครัว และคุณก็หุบปาก และพูดคุยกันเอง คุณไม่ได้ออกอากาศไปทั่วโลก

Interviewee2 (m): ฉันคิดว่ามันแปลก นิดหน่อยที่พวกเขากำลัง สนทนากันในที่สาธารณะ

Interviewee3 (f): ฉันหมายถึง สำหรับคน ที่ไม่ต้องการออกสื่อ พวกเขากำลังเรียกร้อง ความสนใจจากสื่อมากมาย

Reporter (m): แน่นอน ใช่

Interviewee3 (f): ใช่แล้ว น่าเสียดายที่ ออกมาในเวลานี้ และราชินีก็ตายไปไม่นาน ดังนั้นฉันคิดว่าควรมี ความเคารพมากกว่านี้สักหน่อย "

" Media Report from Daily Mall Royals Dec. 9, 2022 Richard Eden (m): ใครที่รักราชวงศ์ หรือเทิดทูน ราชวงศ์ อย่าดูเรื่องนี้ มันน่ารังเกียจจริง ๆ ในทุกระดับ "

ฉันต้องบอกว่าฉัน ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ และฉันก็ไม่สนใจ ที่จะอ่านหนังสือประเภทนี้ และสารคดีซุบซิบ แบบนี้ ฉันไม่รู้สึกสนใจ มีหลายสิ่งที่ ฉันต้องทำ และมีหลายสิ่งที่ ฉันไม่สนใจจริง ๆ ดังนั้น ถ้าคุณต้องการทราบข้อมูล เพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ คุณต้องทำการค้นคว้าของคุณเอง (ครับ เข้าใจครับ อาจารย์) เอาล่ะ ขอบคุณ ที่รัก

มีคำถามเพิ่มเติมหรือไม่? หรือคุณอยากจะบอกอะไรฉันไหม? (ผมว่าแค่นั้นครับ) แค่นั้น (ครับ อาจารย์) […] ดังนั้น ขอพระเจ้าสถิตกับคุณ ขอให้คุณรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่กับคุณ และขอพระเจ้าอวยพรคุณ ขอพระเจ้าคุ้มครองคุณ และพระเจ้ารักคุณ และฉันรักพวกคุณทุกคน ไม่ใช่แค่พวกคุณสองคนที่นั่น ทุกคนที่ช่วยเหลือโลก ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ไม่ใช่แค่ช่วย โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ แต่ช่วยโลกภายนอก ทุกที่ เช่น ให้เงิน แก่คนจน ช่วยงาน การกุศล อาสาสมัคร หรืออะไรก็ตาม ช่วยโลกใน รูปแบบต่าง ๆ สนับสนุนวีแกน ไปตามท้องถนน เพื่อให้โลกได้ยินคำว่า “วีแกน” และสนับสนุน ให้คนเป็นวีแกน ช่วยให้ผู้คนเป็นวีแกน

ช่วยเหลือผู้คน ช่วยเหลือ ชาวสัตว์หรือแม้กระทั่ง ในทางใดทางหนึ่ง เปิดร้านอาหารวีแกน ทำงานให้กับองค์กรชาวสัตว์ อาสาสมัคร หรือช่วยเหลือชาวสัตว์ ที่ติดอยู่บนทางหลวง ข้างถนน เมื่อเขาต้องการคุณ อะไรก็ตาม ให้อาหารชาวนก ปล่อยให้พวกเขาผ่านช่วง วันในฤดูหนาวที่พวกเขา ไม่สามารถหาอาหารอะไรได้ - ยกตัวอย่าง อะไรทำนองนั้น ช่วยเหลือชาวสุนัข ที่ได้รับบาดเจ็บตามท้องถนน รับเลี้ยงลูกสุนัข เมื่อถูกทิ้งที่ไหนสักแห่ง นำชาวแมวออกจากหลุม สกปรกและอาบน้ำให้เธอ ให้อาหาร น้ำแก่เธอ พาไปหาสัตวแพทย์หรือ ศูนย์พักพิงแมวการกุศล ถ้าคุณเองไม่สามารถรับเลี้ยงแมวได้

อะไรก็ตามที่จะช่วยให้ โลกนี้สร้างพลังแห่ง ความเมตตาและความสงบสุข ฉันรู้สึกขอบคุณทุกคน ฉันรู้สึกขอบคุณพระเจ้าจริง ๆ ที่คนดี ๆ แบบนี้ยังมีอยู่ คนดีจริง ๆ ยังมีอยู่ […]

" Footage Courtesy of Wake up World. Thank you. Man: ในชั่วโมงต่อมา เธอจัดโชว์บนผิวน้ำ อันเหลือเชื่อให้เราชม เราเห็นเธอกระโดดเหนือน้ำ อย่างน้อย 40 ครั้ง รวมทั้งสะบัดหาง ตบหางและตบครีบอก

Kid (f): ฉันรู้ว่าเธอกำลังทำอะไร

Woman: เธอกำลังทำอะไรอยู่?

Kid (f): เธอแสดงให้เราเห็นว่า เธอเป็นเพื่อนของเรา

Woman: ใช่ ถูกต้อง "

โอเค ขอให้พระเจ้าคุ้มครอง ฉันรักคุณ และฉันรักคนดีเหล่านี้ ทั้งหมด […] รักคุณและรักทุกคนเหล่านี้ ที่เป็นคนดีและ ผู้ที่ระลึกถึงพระเจ้า และผู้ที่พยายามช่วยเหลือ ซึ่งกันและกันบนดาวเคราะห์ ที่โดดเดี่ยวและลำบากนี้ ฉันขอบคุณพวกคุณทุกคน ขอพระเจ้าอวยพรคุณ ขอให้พระเจ้าคุ้มครองคุณ ขอพระเจ้า สำแดงความรักของพระองค์แก่คุณ ขอให้คุณสัมผัสถึงพระพร และความรักจากพระองค์ ในทุก ๆ วันของชีวิต (ขอบพระคุณครับ อาจารย์) พวกคุณทุกคน - คุณและผู้คน ที่อยู่ข้างนอกนั่น […]

เรารู้สึกขอบคุณอย่างยิ่ง ต่อท่านอาจารย์ผู้ใจดีที่ สละเวลาอันมีค่าของท่าน เพื่อแสดงความห่วงใย และปัญญาของท่านเกี่ยวกับ ปัญหาต่าง ๆ ของโลก ในขณะเดียวกันก็กระตุ้น ให้ทุกคนทำมากขึ้นเสมอ เพื่อช่วยในการเดินทาง ของมนุษยชาติสู่ โลกวีแกน สันติภาพโลก ขอให้เราทุกคนปรารถนา ที่จะสร้างบรรยากาศแห่ง ความรักที่สงบสุขยิ่งขึ้น ด้วยการทำความดีซึ่ง รับประกันผลประโยชน์มากมาย สำหรับพวกเราทั้งหมดโดยรวม เราขอให้ท่านอาจารย์ผู้เป็นที่รัก เพลิดเพลินไปกับความสงบ และสุขภาพที่แข็งแรงตลอดไป ในการคุ้มครองอันทรงพลัง ของเหล่าก็อดเสสผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหมด

หากต้องการฟังมุมมองและเรื่องราว ของท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (วีแกน) เพิ่มเติมที่เกี่ยวข้อง กับหัวข้อเหล่านี้ โปรดติดตาม ในวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2022 ในรายการระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ เพื่อการออกอากาศเต็มรูปแบบ ของการประชุมนี้

นอกจากนี้ สำหรับการอ้างอิงของคุณ โปรดดูรายการ ที่เกี่ยวข้องก่อนหน้านี้ การประชุม ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ อาทิ:

ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์:

ปกครองด้วยความเมตตา และการพิจารณา ต่อสรรพสัตว์ทั้งหลาย

สถาบันพระมหากษัตริย์อังกฤษ ควรได้รับการเคารพ และชื่นชม

แนวโน้มการปกครองของ ซาตานและการลุกลาม ของสงครามในยูเครน

ชาววีแกนที่มีคุณธรรมจะได้รับ การคุ้มครองโดยพลังแห่งพระเจ้า

สวรรค์ช่วยผู้ที่อยู่บน เส้นทางวีแกนที่มีเมตตา

ฯลฯ…

รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
34:08

ข่าวเด่น

2024-11-18   195 รับชม
2024-11-18
195 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์