ค้นหา
ไทย
  • ภาษาทั้งหมด
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • polski
  • italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • ภาษาทั้งหมด
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • polski
  • italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ / ชีวิตของพระมหาวีระ

มารไปแล้ว และชีวิตของพระมหาวีระ : อิสรภาพของจันดานา ตอนที่ 5 ของ 7 ตอน

2020-08-16
Lecture Language:English
รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม

ทุกคนดีมาก ตำรวจด้วย พวกเขาสุภาพ และสง่า เหมือนองค์รักษ์ผู้กล้าหาญ ของอาณาจักรโบราณ หล่อเหลา สง่างามมาก และสุภาพกับฉันอย่างดีมาก ฉันก็ไม่รู้ หากเป็นคุณ หรือคนอื่น จะมีประสบการณ์แตกต่างไปหรือไม่ แต่สำหรับฉัน มันดีมาก ฉันยังเขียนบทกวี ให้พวกเขา

ดังนั้นฉันเล่าเรื่องให้คุณฟังแล้ว ถูกไหม? ไม่ ไม่ ไม่ใช่เรื่องนี้ แต่ฉันตั้งใจ จะบอกคุณบางอย่าง ใช่ ใช่ ใช่แล้ว ฉันจำได้ เขากำลังทำงานอยู่ แล้วฉันก็ไป ฉันไปที่อื่น ไปเรียนขับเฮลิคอปเตอร์ เขาอยู่ที่เดิม เพราะเขาไม่จำเป็นต้องไปกับฉัน เขาเรียนรู้เร็วมาก เขาขับทั้งที่หลับก็ได้ เขาขับ ตอนที่เขานอนหลับ เขาฝึกตลอด เวลาอยู่บ้าน โดยไม่มีเฮลิคอปเตอร์ เขาจึงเรียนรู้เร็วมาก เขากลายเป็น ผู้ตรวจสอบนักบินใหม่ ใช่ไหม ? ก่อนหน้านี้ ใช่ไหม ? ใช่ ใช่แล้ว และตอนนี้ เขาทำงานอย่างอื่น ฉันไม่อยากให้คุณสนใจ เขามากนัก อย่ายุ่งกับเขา อย่ายุ่งกับเขา! และอีกอย่าง เขาแต่งงานแล้ว เขาเป็นคนดี เป็นสามีที่ซื่อสัตย์มาก ดังนั้น อย่าคิด ฉันรู้จักพวกคุณดี คุณชอบนักบิน ฉันก็เช่นกัน แต่ไม่ใช่นักบินทั้งหมด หน้าตาดีอย่างที่คุณคิด เพียงฉันน่าตาดี แต่เป็นนักบินครึ่งหนึ่ง

ฉันบินต่อไม่ได้ ฉันอยากทำนะ ฉันต้องละจากบินภายนอก เพื่อมาบินภายในแทน เป็นประโยชน์กับทุกคนมากกว่า ฉันชอบบินมาก ข้างบนนั้นสวยเหลือเกิน ไม่มีใครยุ่งกับคุณ คุณไม่อาจคิดอย่างอื่นได้ นอกจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้า และสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ก็ล้วนว่างเปล่าด้วย เพียงต้องระวัง สายไฟฟ้า บางทีสภาพอากาศเป็นหมอก หากคุณบินต่ำไป และไม่ระวัง ก็ “ซาโยนาระ” (ลาก่อน) ฉันเกือบตายครั้งหนึ่งตอนที่บิน เพราะเครื่องยนต์ดับ เครื่องยนต์เสีย แต่โชคดี เรามีเครื่องยนต์อีกชุด มีเครื่องยนต์สองชุด เราจึงลงจอดด้วยเครื่องยนต์อีกชุด แบบฉุกเฉิน เนินเขามีลักษณะแบบนี้ ไม่แบนแบบพื้นดิน ลงจอดแบบนี้ โอ! โชคดีที่ครูฝึกของฉัน อยู่ข้าง ๆ เขาจึงขับแทน แต่หน้าของเขาเป็นสีเขียวจัด เกือบไปแล้ว เขามีลูก และภรรยา เขายังไปไม่ได้ แต่ฉันสามารถไปได้ หากฉันกลับตอนนั้น ฉันคงไม่ต้องกังวลมากมาย กับเรื่องต่างอีกเหมือนทุกวันนี้ โอเค ก็แค่นั้น เรื่องนี้แหละ หากคุณพบเขา ช่วยบอก “สวัสดี” ฉันมั่นใจว่าเขาจำฉันได้ อาจไม่ก็ได้นะ ให้เขาดู โทรทัศน์สุพรีมมาสเตอร์ “นั่นไงเธอ จำเธอได้ไหม? ดูอายุมากขึ้นตอนนี้”

ฉันพบเขาตอนที่ฉันอายุยังน้อยกว่านี้ เขาเชิญฉันไปที่วัง ครั้งแรกที่ฉันไปที่นั่น ฉันไปชมพระราชวัง โดยยืนอยู่ด้านนอก แล้วทันใดนั้น กล้องทุกตัวก็หันมาที่ฉัน เป็นร้อย ๆ กล้อง! โอ! ฉันรู้สึกกลัว เราจึงกลับบ้าน แต่เขาพูดว่า “โปรดมาที่วังพรุ่งนี้” ฉันจำภาพตอนนั้นได้ ฉันรู้สึกกลัว ฉันไม่ต้องการกลับไปอีก ในตอนนั้น

จากนั้น ฉันไปอยู่ที่ประเทศไทย เขาขอเบอร์ของฉัน ฉันไม่รู้ว่าเขา โทรฯหรือเปล่า เพราะฉันลืม บอกชื่อ เพราะพวกเขารู้จักฉัน ในชื่ออาจารย์ชิงไห่ เขาไม่รู้จัก อีกชื่อของฉัน อะไรก็ตาม เขาอาจพูดว่า “ไม่มีคนชื่อนี้อยู่ที่นี่ ไม่มีคนชื่อนี้ ในบ้านของเรา” ฉันไม่รับโทรศัพท์ อยู่แล้ว พวกเขารับโทรศัพท์ อาจพูดว่า “เจ้าของบ้านไม่อยู่” หรือ “เราไม่มีคนชื่อนี้” ฉันไม่รู้นะ เขาไปประเทศไทย หลังจากนั้นไม่นาน เพื่อไปเยือนประเทศไทย เขาอาจคิดว่า ฉันเป็นเจ้าหญิง เขาไปที่พระราชวัง แต่พบเจ้าหญิงองค์อื่น ฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่เขารู้เบอร์ของฉัน ฉันอยู่ที่สนามกอล์ฟ ฉันให้เบอร์โทรศัพท์ที่นั่น กับเขา ไม่เป็นไร ฉันลืมไปแล้ว อะไรก็แล้วแต่ เพื่อนเก่า นาน นานมากมาแล้ว เพื่อนเก่าแก่ เขาจำไม่ได้ แต่ฉันจำได้ นั่นแหละปัญหา

ช่างเถอะ ฉันเคยอยู่ที่โมนาโกมาก่อน ฉันไม่ได้หมายถึงชาติปัจจุบัน แต่ชาติอื่น ในฐานะเจ้าหญิง แต่อย่าพูดเรื่องนี้เลย ฉันจะโกรธ แต่พวกเขาปฏิบัติกับฉัน เหมือนเป็นราชวงศ์เมื่ออยู่ที่นั่น ไม่ว่าฉันอยู่ที่โรงแรมใด พวกเขาปฏิบัติกับฉันอย่างดีเลิศ เหตุนี้ ฉันจึงปฏิบัติกับคุณอย่างดี เพราะความทรงจำดี ๆ แต่ก่อน จากโมนาโก ฉันต้องใช้คืนความเป็นมิตร และความกรุณาของผู้คนที่นั่น พวกเขาเรียกฉันว่า “เจ้าหญิง!” แม้พวกเขาไม่รู้จักฉันเลย ฉันไปภัตตาคาร รับประทานอาหาร กับลูกศิษย์ พวกเขาเรียก เจ้าหญิงนี่ เจ้าหญิงนั่น ฉันพูดว่า “ฉันไม่ใช่เจ้าหญิง” แต่เธอก็ตอบว่า “ไม่เป็นไรค่ะ” เจ้าของภัตตาคาร พูดว่า “ไม่เป็นไร คุณคือเจ้าหญิงของฉัน” ฉันพูดไปว่า “ถ้าเช่นนั้น ก็ขอบคุณ” แล้วเราก็เรียกแท็กซี่ หรืออะไรสักอย่าง พวกเขาคิดว่าฉันคือเจ้าหญิง พวกเขาเรียกฉันว่า เจ้าหญิงนี่ เจ้าหญิงนั่น ฉันตอบไปเสมอว่า “ไม่ใช่” คนขับแท็กซี่ชาวโมนาโกคนหนึ่ง เขามีบ้านอยู่ในโมนาโก และเขาไม่ใช่คนขับแท็กซี่ธรรมดา ฉันโทรฯ เรียกเขามา เพราะฉันไม่ขับรถที่นี่ เขามา รับฉัน ครั้งแรก เขามาด้วยแท็กซี่ปกติ ครั้งที่สอง เขามาด้วยเมอร์เซเดส สีขาวคันใหญ่ ฉันพูดว่า “โอ! แท็กซี่ของคุณอีกคันไปไหนล่ะ?” เขาพูดว่า “คันนี้สำหรับท่านครับ เจ้าหญิง” เขาพูดทำนองนั้น

คนขับแท็กซี่ชอบฉัน ฉันมีบุญสัมพันธ์ที่ดีสักอย่าง กับคนขับแท็กซี่ เขามีรถสวย เมอร์เซเดสสีขาว สะอาด ใหม่ กว้างขวาง เป็นรถของเขาเอง เขาไม่ได้ขับแท็กซี่มา เขาเป็นคนโมนาโกแท้ ๆ ลักษณะพิเศษของเขา และเขาบอกว่าเขาเป็นคนโมนาโก เกิดที่นั่น พื้นเพอยู่ที่นั่น เขาพูดฝรั่งเศสกับฉัน ฉันบอกว่า ภาษาอังกฤษ ถนัดกว่า ลิ้นฉันพันกัน นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้พูดฝรั่งเศส เขาเลยพูดอังกฤษกับฉัน คนในโมนาโก เป็นคนมีการศึกษาสูง เมื่อฉันไปที่นั่นครั้งแรก ฉันคุยกับคนที่ทำงาน ในภัตตาคารของในโรงแรม “บอกฉันหน่อย พวกคุณคนไหนเป็นชาวโมนาโก? ฉันอยากพบ คนโมนาโกแท้ ๆ” พวกเขาพูดว่า “ไม่มีคนโมนาโก ทำงานในโมนาโกหรอกครับ” ดูเหมือนว่าพวกเขาต่างเป็นเจ้าชาย ไม่จำเป็นต้องทำงาน มีแต่ชาวต่างชาติที่ไปทำงานที่นั่น จริงไหม? (ใช่ค่ะ) มันจริง “เขาไม่รู้อะไร พวกผู้ชายไม่รู้เรื่องมากนัก ฉันมองหา แต่คนโมนาโก ดูว่าเขาหน้าตาอย่างไร (พื้นเพของฉันไม่ได้มาจาก โมนาโกเช่นกันค่ะ) คุณไม่ใช่หรือ? คุณเป็นคนฝรั่งเศสใช่ไหม? (ใช่ค่ะ) แต่คุณอยู่ที่โมนาโก มิใช่หรือ? (ใช่ค่ะ) ใช่หรือ? (ฉันอยู่ติดกับโมนาโกค่ะ) ติดกับโมนาโก (ฉันไม่ได้มาจากโมนาโกค่ะ) เข้าใจ เข้าใจ

ตอนที่ฉันอยู่ที่โมนาโก มันยากมากที่จะหา อพาร์ตเมนต์ หรือที่อยู่ช่วงสั้น ๆ ฉันจึงอยู่ติดกับโมนาโก ครั้งหนึ่ง ฉันพบชาวโมนาโก ที่ทำงานในภัตตาคาร เธอรับเลี้ยงเด็กชายชาวเอาหลัก (เวียดนาม) เป็นบุตรบุญธรรม เป็นคนดี กรุณามาก ฉันไม่รู้จัก ชาวโมนาโก เพราะเมื่อคุณไป โมนาโก คุณคิดว่าทุกคนเป็นชาวโมนาโก มันไม่จริง ทุกคนเป็นชาวต่างชาติ คนรวย และมีชื่อเสียง อยู่กันที่นั่น คนรวย คนมีอิทธิพล อยู่ที่นั่น มีเรือยอชต์ และเฮลิคอปเตอร์ จอดบนเรือยอชต์ หรือตามที่จอด ทำนองนั้น ตอนที่ฉันอยู่ที่นั่น พวกเขาคิดว่า ฉันรวย และมีอิทธิพล พวกเขาจึงปฏิบัติกับฉันดีมาก ไม่ใช่คนโมนาโก- คุณพบพวกเขายาก ทุกคนเป็นคนต่างถิ่น คนต่างชาติ

โอ! พระพุทธเจ้าอยู่ไหนนี่? เรากลับไปที่... ฉันจะอ่านเรื่อง พระมหาวีระ มันเกือบจะ… เกือบจะจบแล้วใช่ไหม? เกือบจบแล้ว ความทุกข์ทรมาน ความทุกข์ทรมานของท่าน กรรมที่ต้องทุกข์ทน ระหว่างฝึกปฏิบัติเป็นเวลา 12 ปี แต่ยังมีอีก คำสอนของท่าน เมื่อท่านบรรลุ การรู้แจ้งสมบูรณ์แล้ว ยังมีคำสอนอีกภายหลัง โอเค เอาล่ะ นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง- ท่านช่วยให้จันทนาหลุดพ้น “การหลุดพ้น ของจันทนา”

ก่อนหน้านั้น ตอนที่ระดับชั้นของฉันยังไม่สูง ฉันอยู่ในฝรั่งเศส เป็นบ้านในฝรั่งเศส ในภูเขา ฉันมองหา อาศรม ให้คนยุโรป ฉันจึงอยู่บ้าน ก่อนบ้านหลังนั้น ฉันไม่มีที่อยู่ ไม่มีใครอยู่ใกล้กับที่คุณเคยอยู่ หรือที่ที่เราอยู่ตอนนี้ ในตอนนั้น ฉันจึงต้องอยู่โรงแรม พวกเขาดีกับฉันมาก ดีกับฉันมากตลอดเวลา ไม่ว่าฉันต้องการอะไร มาทันที ตอนที่ฉันพักอยู่ที่นั่น ฉันป่วยมาก แม้ว่าฉันป่วย ก็มีนัด ที่ต้องไปฝรั่งเศส เพื่อหาบ้าน และในฝรั่งเศส ฉันไม่พบโรงแรม ที่อยู่ติดกับทะเลเลย ในตอนนั้น ฉันไม่รู้จัก บริเวณนั้นของฝรั่งเศสดีนัก และฉันผ่านโมนาโก นานมากมาแล้ว ตอนที่เราทำแฟชั่นโชว์ ทุก ๆ ที่ ผ่านโมนาโกไป ตอนนั้นคนขับรถของฉันแนะนำให้ “แวะไปรับประทานคูสคูส และไปดิสโกเทค ของเจ้าชาย” ณ เวลานั้น เราจึงแวะไป ฉันเห็นว่ามันเป็นบริเวณที่ดีมาก หาโรงแรมติดทะเล ได้ง่าย

ฉันป่วยตอนนั้น... แม้ว่าป่วย ฉันก็ยังมองหาอาศรม และบ้าน ในฝรั่งเศส เราจองโรงแรม ฉันพักห้องเล็ก ๆ แต่หันหน้าสู่ทะเล หลังจากนั้นอีกสองสามสัปดาห์ อาการไอก็หยุด ทุกวัน ฉันลงไปที่บาร์ ดื่มน้ำผลไม้ น้ำผลไม้ผสม ฟรุตพันช์ ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ฉันดีขึ้น อย่างเร็วมาก เพียงสองสามอาทิตย์ จากนั้นสองสามปี เราจึงมีอาศรม และบ้าน แต่เมื่อไรที่ฉันป่วย หรือรู้สึกอึดอัด เมื่ออยู่บริเวณนั้นบางครั้ง... ไม่ใช่บริเวณแถวนั้น แต่เป็นกรรม ที่มาอย่างท่วมท้น ฉันป่วย ไอ หรืออึดอัด ทุก ๆ แบบ และฉันก็กลับไปที่โรงแรมนั้น พยายามจองห้องเดิม จะได้มองดูทะเล หายใจเข้าทุกวัน ลงมาข้างล่าง ดื่มน้ำผลไม้ ออกไปข้างนอก กินพิซซ่าวีแกน หรืออื่น ๆ แล้วกลับมา ดื่มน้ำผลไม้ที่นั่น ฉันดีขึ้นเร็วมาก

แต่พวกเขาดีมาก ทุกครั้งที่ฉันมา เขาเห็นฉันไออีก เขาจะพูดว่า “ไปเอานี่ ไปเอานั่นมาให้ท่าน เร็วเข้า” พนักงานขนกระเป๋า ที่นำกระเป๋ามาให้ฉัน ที่ห้อง พวกเขาพูดว่า “ไปนำนี่มาให้ท่าน ไปนำนั่นมาให้ท่าน โทรฯ หาหมอ” อย่างอัตโนมัติ ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย เขาจะพูดว่า “ไปซื้อแวร์เวน” ทำนองนั้น ชาสำหรับอาการไอ “ตามหมอ นำน้ำผลไม้มาให้ท่าน ท่านชอบน้ำผลไม้ชนิดนี้ น้ำผลไม้ชนิดนั้น” พวกเขาตั้งชื่อ ค็อกเทล (ไม่มีแอลกอฮอล์) ตามชื่อฉัน อีกชื่อหนึ่ง ไม่ใช่ชื่ออาจารย์ของพวกคุณ พวกเขาบอกว่า “นี่คือค็อกเทลของท่าน ตอนนี้เรียกตามชื่อท่าน เราจะตั้งชื่อมันล่ะ” พวกเขาบอกฉันแบบนั้น ฉันไม่ได้อยู่นาน ไม่รู้ว่า พวกเขาพิมพ์ลงในเมนูหรือเปล่า บางทีเขาอาจพิมพ์ลงไป มันนานมากแล้ว ฉันลืมไปแล้ว นี่บอกว่า พวกเขาดีอย่างไร แน่นอน ฉันก็ดีกับพวกเขาด้วย ฉันแสดงความใส่ใจ กับพนักงานรับรถ พนักงานถือกระเป๋า พนักงานเสิร์ฟ และฉันให้ทิปงาม ด้วยความรัก และความใส่ใจ ในวันคริสต์มาส ฉันซื้อของขวัญมาให้พวกเขา แต่ละคน ทั้งโรงแรม ทุกคนได้รับของขวัญเล็ก ๆ เป็นกล่องช็อกโกแลต (วีแกน) ทำนองนั้น หรือขนมหวาน (วีแกน)

แม้ว่าฉันไม่ได้พัก ที่โรงแรมนั้นอีก เมื่อไรที่ฉันเจอพวกเขา หรือพวกเขาเจอฉัน พวกเขาดีใจมาก ๆ ๆ เราจะคุย เรื่องตลกกัน พวกเขาพูดตลกกับฉัน แต่เขาจะจริงจัง กับแขกอื่น แต่กับฉัน พวกเขาตลกกับฉันเหมือนเพื่อนเก่า พวกเขาคุยกันเอง และฉันออกจากโรงแรม ฉันพูดว่า “พวกคุณทำอะไรกันอยู่? นินทาฉันหรือ?” แค่พูดเล่น พวกเขาพูดว่า “ไม่ใช่ ไม่ใช่ ใม่ใช่ เรากำลังพูดถึงผู้ชายคนนี้ เขามีรอยสัก คุณทราบไหมว่าที่ไหน” ฉันตอบว่า “ฉันไม่รู้ว่าที่ไหน ฉันจะรู้ได้อย่างไร?” ฉันพูดเล่น ๆ ฉันบอกว่า “ฉันไม่รู้ว่าที่ไหน แต่มีอะไรบางอย่าง” เขาพูดว่า “ในที่ที่เป็นความลับ คุณมองไม่เป็น” ฉันพูดว่า “แน่นอน ฉันไม่อยากเห็นรอยสักของเขาหรอก ไม่ว่าเป็นความลับหรือเปล่า ฉันก็มีความลับเหมือนกัน” และฉันก็ดึงขากางเกงฉันขึ้นนิดนึง “นี่ไง!” แค่ตลก ไม่มีอะไรหรอก อาจเป็น รอยยุงกัดเล็ก ๆ ฉันพูดว่า “นี่ไง!” แล้วพวกเขาก็หัวเราะกัน ผู้จัดการก็เลยออกมา แล้วพูดว่า “มีอะไรกัน?” ฉันบอกว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร เราแค่เปรียบเทียบรอยสักกัน ของใครสวยกว่า และอยู่ตรงไหน ในตัว” พวกเขาจึง หัวเราะกัน นั่นเป็นความทรงจำดี ๆ

ฉันไม่เคยมีความจำเลวร้าย ในโมนาโกเลย แม้ว่าครั้งหนึ่ง เขาซื้อรถใหม่มาให้ฉัน ฉันไม่รู้วิธีขับคันนี้ ฉันขับรถไป แต่มันเร็วเกินกว่า ที่ฉันคิด ฉันไปเฉี่ยวมา แต่ไม่รู้ตัว ว่าฉันทำหรือเปล่า ฉันหยุดข้างทาง รอตำรวจ แม้กระทั่งตำรวจก็ดีมาก ฉันต้องซื้อ เค้ก (วีแกน) เพื่อขอโทษภายหลัง ที่ต้องให้ทำงาน ในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ทุกคนดีมาก ตำรวจด้วย พวกเขาสุภาพ และสง่า เหมือนองค์รักษ์ผู้กล้าหาญ ของอาณาจักรโบราณ หล่อเหลา สง่างามมาก และสุภาพกับฉันอย่างดีมาก ฉันก็ไม่รู้ หากเป็นคุณ หรือคนอื่น จะมีประสบการณ์แตกต่างไปหรือไม่ แต่สำหรับฉัน มันดีมาก ฉันยังเขียนบทกวี ให้พวกเขา ในวันคริสต์มาส ฉันมอบให้พวกเขา พร้อมช็อกโกแลต (วีแกน) จำได้ไหม? (จำได้ครับ) คุณขับรถนำช็อกโกแลต (วีแกน) ทั้งหมดนี้ไปให้พวกเขา พวกเขากังวลใจ เพราะไม่เคยมีใคร ให้ช็อกโกแลตแก่ตำรวจมาก่อน ฉันคิดว่า พวกเขาคงกลัว ว่าเป็นการให้สินบนพวกเขา พวกเขาจึง ไม่กล้าซื้อของให้ตำรวจ ฉันเพียงซื้อมันมา แล้วพวกเขาถามเขา พวกเขาคิดว่าฉันพูดฝรั่งเศสไม่ได้ พวกเขาถามเขาว่า “คุณขโมยช็อกโกแลต มาจากไหน?” เพราะว่า เยอะแยะมาก และพูดกับพวกเขาว่า “ไม่ใช่ เราซื้อมา จากคาร์ฟูร์ คุณโทรฯ ไปถามได้เลย” เขาโกรธ พวกเขาคิดได้อย่างไร ว่าอาจารย์ของเขา ขโมยช็อกโกแลต? เขาแบบว่า ฉุนนิดหน่อย น้ำเสียงไม่เป็นมิตรนัก “คุณโทรฯ ไปถามเลยเดี๋ยวนี้ เราซื้อมาจาก คาร์ฟูร์เมื่อกี้นี้” มันตลกจริง ๆ ตำรวจก็เลยถอย เพราะเขาดูเอาจริง และโกรธ ดูน่ากลัว สิ่งที่เขาแสดง อาจเป็นพลังงานที่ออกมา “โอ้!” พวกตำรวจ เลยถอย และคิดว่า “โอ อย่ายุ่งกับคนเหล่านี้ดีกว่า”

ไอ๋หย๋า! คิดดูนะ เขาอาจพูดเล่น คนแบบไหนล่ะ ที่ขโมยช็อกโกแลต แล้วเอามาให้ตำรวจ? หากคุณขโมยอะไร คุณต้องวิ่งให้ไกลตำรวจ มากที่สุดเท่าที่ทำได้ ใช่ไหม? หรือคุณนำมันมา หน้าสำนักงานตำรวจ ส่งมอบให้! แล้วพูดว่า “สุขสันต์วันคริสต์มาส สวัสดีปีใหม่” คนละหนึ่งกล่อง ฉันนับได้ 300 กว่า แล้วเขาหันกลับมา พูดว่า “คุณขโมย ช็อกโกแลตทั้งหมดนี้มาจากไหน?” เขาอาจพูดเล่น แต่พวกตำรวจ เขาไม่ตลกตรง ๆ เขาตลกแบบตำรวจ แบบขึงขังมาก “คุณขโมย ช็อกโกแลตทั้งหมดนี้มาจากไหน?” บางทีเขาอาจหัวเราะอยู่ข้างใน “ฮา ฮา” แต่เรามองไม่เห็นว่า เขาหัวเราะอยู่ข้างใน และชายคนนี้ก็ฉุนนิดหน่อบ เขาพูดว่า “ไม่ใช่ เราไม่ได้ขโมยอะไรเลย! เราซื้อมาจาก คาร์ฟูร์ตรงนั้น คุณโทรฯ ไปถามเลยตอนนี้” ใช่ไหม? คุณพูดแบบนั้น ตำรวจจึงพูดว่า “โอเค” พวกเขาคงคิด เราไม่มีอารมณ์ขันเลย เขาจึงไม่อยาก ยุ่งกับคนแบบนี้ เขาเลยพูด “โอเค นำมันเข้ามา”

แล้วเขาก็ถามหัวหน้า ฉันขอโทษเขา “คราวก่อน ฉันรบกวนคุณมาก และฉันเป็นคนมาเยือน ประเทศคุณ โปรดอนุญาตให้ฉันมอบ ช็อกโกแลต (วีแกน) เล็ก ๆน้อย ๆ นี้ กับพวกคุณแต่ละคน เพราะคุณทำงานหนักมาทั้งปี และฉันไม่รู้ว่า มีคนขอบคุณ คุณบ้างไหม ดังนั้นเราจึงอยากขอบคุณ” แล้วเขาก็พูดว่า “โอเค” ตำรวจอื่น รู้ชื่อฉัน ตำรวจคนหนึ่งรู้ชื่อฉัน เพราะเรื่องรถ แต่ไม่มีปัญหาอะไร เพราะฉันมีประกันอยู่ เพียงรอยขีดข่วนนิดหน่อย ฉันไม่เห็นเลยว่า รถมีรอยขีดข่วน หัวหน้ารู้จักฉันอยู่แล้ว เพราะว่า เขารับเรื่องของฉันครั้งก่อน ตอนที่รถมีปัญหา เรานำรถมาด้านใน เขายังถามฉัน เพราะมันยังไม่ถูกโอน มาในชื่อของฉัน เขาพูดว่า “คุณขโมยรถนี้มาหรือ ? ใช่ หรือไม่ใช่ ? ฉันจึงบอกว่า “ไม่ใช่ค่ะท่าน!” ดังมาก ดังเท่ากับที่เขาพูด เขาจึงรู้จักฉันแล้ว อย่ามาทำเล่น ๆ กับฉัน ต่อมา เขารู้ว่ามันเป็นความจริง ฉันไม่ได้ขโมยมันมา เขาจึงมีความเคารพฉันมากขึ้นอยู่ เมื่อฉันขออนุญาต มอบช็อกโกแลต เขาบอก “โอเค” ทันที ดีใจมาก

ก่อนหน้านั้น ฉันยังซื้อ พวกโดนัท (วีแกน) อะไรแบบนั้นให้เขา ฉันได้ยินว่า ตำรวจชอบของหวาน อย่างโดนัท ฉันเลยซื้อมามากมาย (เฉพาะในอเมริกาค่ะ) เฉพาะในอเมริกาหรือ ? (ในฝรั่งเศส ไม่ใช่) ในฝรั่งเศส ไม่หรือ ? ในฝรั่งเศส พวกเขาชอบอะไรกัน ? (ชีสค่ะ) ชีส! โอ! โอ! ฉันไม่รู้เลย (ไวน์ค่ะ) ไวน์! โอ อย่างนั้นหรือ ฉันมีแชมเปญอยู่ (ไม่มีแอลกอฮอล์) พอฉันนำมันไป พวกเขาพูดว่า “โอ เราเพียงพูดเล่น” ฉันพูดว่า “อะไรนะ! ฉันไม่เห็นว่าคุณพูดเล่นนะ ฉันคิดว่าคุณพูดจริง ฉันซื้อมาแล้ว คืนไม่ได้แล้ว” ฉันเปิดทั้งหมด ทุกคนเห็น และพูดว่า “โอเค​” เขาอาจให้เด็ก ๆ ต่อ หลังจากนั้น ฉันก็ไม่รู้ ฉันเพียงออกมา และพูดว่า “ขอบคุณ ขอบคุณพระเจ้า ที่คุณรับคำขอโทษของฉัน” บางคนรู้จักฉัน และต่อมา ฉันนำช็อกโกแลต (วีแกน) สำหรับคริสต์มาส หัวหน้า โอเคอยู่แล้ว

และผู้ชายอีกคน อาจเป็นผู้ดูแล หรืออย่างอื่น อาจเป็นรองหัวหน้า หรืออะไรก็ตาม เขาถามฉันว่า “คุณชื่ออะไร? เราต้องขอชื่อคุณ ใครเป็นผู้ให้?” ฉันพูดว่า “คุณรู้จักชื่อของฉันแล้ว ฉันมีประวัติอยู่ที่นี่” ตำรวจผู้ตรวจการ บอกเขาว่า “เราทราบชื่อของท่านครับ” เขาสะกดชื่อออกมาดัง ๆ ให้ผู้ชายคนนั้นรู้ ฉันพูดว่า “เห็นไหม ?” ฉันเป็นที่รู้จักกันดีที่นี่ ฉันเป็นคนดี อย่าห่วง” แล้วเขาก็ปล่อยฉันไป พวกเขาเป็นตำรวจที่เป็นมิตรมาก เป็นมิตรมาก ๆ พวกตำรวจที่นั่น อาจเครียด กว่าที่อื่น เพราะโมนาโกเล็กนิดเดียว และทุกคนต่างไปที่นั่น มีรถหรู และต่างเป็น วีไอพี คนสำคัญ พวกเขาจึงต้องระวังมาก ๆ หากคุณไปที่นั่น ด้วยจักรยาน หรือมอเตอร์ไซค์ พวกเขาต้องขอตรวจไอดี ทุกอย่าง แม้กระทั่งหมอ ที่ขี่จักรยาน เพราะรถติด ง่ายกว่าสำหรับเขา ที่จะขับซิกแซกผ่านการจราจร ไปถึงคนไข้ได้เร็วกว่า ถึงกระนั้น แม้ว่าพวกเขารู้จักกันอยู่แล้ว ก็ต้องเช็คไอดี เพื่อป้องกันเมือง และประเทศ ที่นั่น เขาพูดกันว่า ไม่มีอาชญากรรม ไม่มีโจร ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนปลอดภัยที่นั่น มันมีชื่อเสียงเรื่องความปลอดภัย เขาบอกฉันอย่างนี้ ฉันจะปลอดภัยที่นั่น ตลอดเวลา ฉันไปทุกแห่งคนเดียว ฉันไม่ต้องการ ผู้รักษาความปลอดภัยระดับเพชร พวกเขาเรียกว่าการ์ดระดับเพชร ฉันไม่แน่ใจว่า ระดับเพชรคืออะไร วันหนึ่งฉันจะลองดู อาจเป็นเส้นก๋วยเตี๋ยว ที่ทำเป็นรูปเพชร

รับชมเพิ่มเติม
ตอน  5 / 7
รับชมเพิ่มเติม
ระหว่างอาจารย์และลูกศิษย์ - ชีวิตของพระมหาวีระ  15 / 60
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
2024-03-28
409 รับชม
1:57

Animals are People, Part 23

206 รับชม
2024-03-28
206 รับชม
2:06

Animals are People, Part 24

182 รับชม
2024-03-28
182 รับชม
2:29

Animals are People, Part 25

181 รับชม
2024-03-28
181 รับชม
39:42

ข่าวเด่น

76 รับชม
2024-03-27
76 รับชม
9:36
2024-03-27
149 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์